Tuesday, March 31, 2009

เม้าส์ไม่เลิก มาริโอ้ ควงพลอยขึ้นคอนโด

เม้าส์ไม่เลิก มาริโอ้ ควงพลอยขึ้นคอนโด ตกเป็นข่าวขาเม้าส์อีกแล้วสำหรับพระเอก นายแบบวัยรุ่นสุดฮอต หนุ่มมาริโอ้ เมาเร่อ ที่มีข่าวว่า ควงสาว พลอย เฌอมาลย์ ดินเนอร์หวาน เท่านั้นไม่พอยังเม้าส์กันต่อว่า มีคนตาดีเห็นทั้งคู่ไปสวีตกันที่คอนโดต่ออีกต่างหาก งานนี้หนุ่มโอ้ ยืนยันเสียงแข็งว่าไม่มีเรื่องอะไรแบบนั้นแน่นอน ฟากทางด้านเพื่อนสาวสุดสนิทอย่าง สาวกุ๊บกิ๊บ เค้าข้างแฟนหนุ่มอีกคน ว่าไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่ เพราะสนิทและนับถือสาวพลอยด้วยกันทั้งคู่เชื่อใจไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอน....

วันก่อนผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหนุ่มโอ้และสาวกุ๊บกิ๊บมาออกงานด้วยกันพอดีเลยยิงคำถามกันตรง ๆ กันไปเลยเกี่ยวกับข่าวของหนุ่มโอ้ที่เกิดขึ้นกับสาวพลอย เล่นเอาหนุ่มโอ้นิ่งไปเล็กน้อย ก่อนตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้มว่า ไม่มีทางแน่นอนครับ เพราะโอ้กับพี่พลอยคบกันในฐานะพี่น้องเท่านั้น มีโทรคุยกันบ้างแต่ในเรื่องปรึกษาเรื่องต่าง ๆ กันมากกว่า ไม่เคยคิดเป็นอย่างอื่นเลยครับ น่าจะเป็นการเข้าใจผิดกันมากกว่า...
แล้วกุ๊บกิ๊บล่ะ คุยกันหรือยังกับข่าวที่เกิดขึ้น!?ก็คุยกันแล้วครับ เค้าก็ไม่ได้ว่าอะไร เค้ารู้ว่าผมเป็นคนยังไงอยู่แล้ว กับพี่พลอยด้วย เพราะเราสามคนก็ค่อนข้างสนิทกัน
ส่วนทางด้านกุ๊บกิ๊บก็ยังออกมายืนยันด้วยว่าไม่เชื่อกับข่าวที่เกิดขึ้น!!!หนูว่ามันเป็นแค่ข่าวมากกว่า ไม่เชื่อเลยค่ะกับข่าวที่เกิดขึ้น เพราะเท่าที่รู้จักกับโอ้มาเค้าไม่ได้เป็นคนแบบนั้นเลยค่ะ พี่พลอยด้วยคะ เพราะเค้าเป็นคนน่ารักเราก็สนิทกันในระดับหนึ่ง เป็นพี่ที่เคารพค่ะ ไม่มีเรื่องแบบที่เป็นข่าวแน่นอน!! ส่วนความสัมพันธ์กับโอ้ตอนนี้ก็โอเคค่ะ ข่าวที่เกิดขึ้นกิ๊บว่ามันค่อนข้างไร้สาระ~!!

นุ่น วรนุช รอต๊อดพูดเรื่องแต่งงาน

นุ่น วรนุช รอต๊อดพูดเรื่องแต่งงาน ให้ เต้-สันต์ ภิรมย์ภักดี ออกหน้าการันตีว่า นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์ น่ารักหากมาเป็นศรีภรรยาของน้องชาย ต๊อด-ปิติ ที่บ้านก็ไม่มีใครรังเกียจ แถมยังทำให้ข่าวลือว่า คู่ ต๊อด-นุ่น ใกล้มีข่าวดีเร็วๆนี้ ด้วยการยืนยันว่า ต๊อด อยากมีลูก อย่างไรก็ตาม อยากขอฟังจากปากคู่กรณีเอง จึงบุกไปกองถ่าย “แม่หญิง” ทางช่อง 7 ที่ปักหลักถ่ายอยู่แถวถนนประดิพัทธ์ ซึ่ง นุ่น กล่าวว่า “ไม่มีความคืบหน้าเลยค่ะ ไม่มีการหาฤกษ์อะไรเลย” เห็นว่าจะหมั้นไว้ก่อน? “เอาเป็นว่าถ้านุ่นมีฤกษ์จริงๆ วันเป๊ะๆนุ่นจะบอก ตอนนี้ยังไม่มีการหาฤกษ์ว่าวันนี้ๆ ถ้าถามว่าหมั้นก่อนก็เป็นปกติอยู่แล้ว คือด้วยประเพณีมันก็ต้องหมั้นอยู่แล้ว คือไม่ได้คิดว่าเป็นเรื่องแปลก ถามว่ามีคุยกันบ้างมั้ยก็มีคุยกันบ้าง แต่ว่าเรื่องนี้น่าจะให้ต๊อดตอบดีกว่า” ที่ยังไม่แต่งเพราะต๊อดเป็นปีชงด้วยรึเปล่า? “อืม มันคงหลายๆเรื่องค่ะ นุ่นก็ไม่มีคำตอบให้ แต่ถ้ามีวันนั้นจริงๆก็คงเป็นเรื่องใหญ่ เป็นเรื่องที่น่ายินดี คงไม่ปิดอะไรอยู่แล้ว” พี่เต้ชมว่านุ่นน่ารัก พร้อมจะรับเป็นสะใภ้? (ยิ้มๆ) “อันนี้ก็ตอบแทนเค้าไม่ได้ก็ขอบคุณน่ะค่ะที่เค้าเอ็นดู” ปกติคุยกันอยู่แล้วใช่มั้ย? “ก็มีเจอกัน รู้จักกันอยู่แล้วค่ะ” คงไม่แต่งปีนี้แน่นอน? “ตอนนี้เดือนอะไรนะ มี.ค. ตอบไม่ได้จริงๆ อะไรที่เป็นอนาคตนุ่นตอบไม่ได้จริงๆ ถามต๊อดดีกว่า” แต่ต๊อดอยากมีลูกแล้ว? “นุ่นตอบแทนไม่ได้เลยค่ะ”.

Monday, March 30, 2009

แทค ดีใจ หญิงแม้น มีหนุ่มนอกคนใหม่

แทค ดีใจ หญิงแม้น มีหนุ่มนอกคนใหม่ แต่ติงอยากให้ฝ่ายหญิงเอาเวลาไปตั้งใจเรียนมากกว่ามาพูดเรื่องความรัก เผยพอห่างกันแล้วรู้สึกดี ด้านตัวเองตอนนี้เปิดรับสาวๆ เต็มที่ ฟุ้งคุยกับสาวตรึม
หลังจากเลิกรากับ "หญิงแม้น ม.ร.ว.แม้นนฤมาส ยุคล" เห็นฝ่ายชาย "แทค ภรัญยู โรจนวุฒิธรรม" ดูจะมีความสุขเพราะจากการให้สัมภาษณ์ดูหนุ่ม"แทค"ยิ้มระรื่น รับ ยังคุยฝ่ายหญิงอยู่ แนะฝ่ายหญิงให้เอาเวลาที่มาให้ สัมภาษณ์เรื่องความรักไปตั้งเรียนดีกว่า ลั่น พอห่างกันแล้วรู้สึกดี

"ถามว่าคุยกันไหม ก็คุยกันบ้างครับ คุยกันบ้างไม่ถึงขนาดว่าไม่คุยเลย"

"ก็ดีครับ ก็ดี ไม่ถามครับช่วงนี้เฉยๆปล่อยไปเรื่อยๆยังเด็กอยู่ อยากให้น้องเขาตั้งใจเรียนครับมากกว่าดีกว่าอีก ดีกว่ามาพูดเรื่องความรักอย่างนี้อีกรวมถึงเรื่องของผมด้วย"

"ช่วงนี้ห่างกันก็ดีครับ ผมก็ใช้ชีวิตของผมได้ก็เรื่อยๆ โอเคไม่มีอะไรแล้ว"

ผู้สื่อข่าวสอบถามถึงกรณีที่หญิงแม้นให้สัมภาษณ์ว่าหนุ่มแทคมีสาวใหม่แล้วอักษรย่อจ. เจ้าตัวรีบแจงเป็นเพื่อนของพี่ชาย

"คงไม่ใช่ครับ อักษรย่อตัวโอมากกว่า เปล่าครับไม่มีครับ ตอนนี้ยังไม่มีครับ ยังไม่มีจริงๆ เขาเป็นเพื่อนของพี่ชายผมครับ รู้จักกันสนิทสนมกันครับ ไม่มีอะไรครับ ก็สนิทกันครับเจอกันก็กินข้าวกันครับไม่มีอะไรมาก ตอนนี้ผมก็เปิดครับ ก็มีเข้ามาเรื่อยๆ ครับ และถ้าถามว่ามีคุยไหมก็มีคุยด้วยเรื่อยๆครับ มีเข้ามาอยู่เรื่อยครับ(หัวเราะ)" เผยโอกาสจะกลับมารีเทิร์นกับหญิงแม้นหรือไม่ เจ้าตัว ตอบสั้นๆว่า "ค่อยว่ากันครับ ค่อยว่ากัน"

ชัญญ่า เมินถูกคู่เกาเหลา ฟลุค เกริกพล

ชัญญ่า เมินถูกคู่เกาเหลา ฟลุค-เกริกพล เหน็บร้ายตัวแม่ ลั่นขอให้จบ ไม่เชื่อ แมน-ศุภกิจ เข้าข้างพ่อม่ายแขวะฟลุคได้บุญทำให้ดังสมใจ โต้มีแฟนแล้วชื่อ "เจ๋ง" ย้ำ "วิน" ยังเป็นคนพิเศษ ปฏิเสธมีผู้จัดการส่วนตัว 3 คน พร้อมปัดมีเสี่ยเลี้ยงได้ค่าตัวคืนละ 4 หมื่น ท้าแมงเม้าท์ให้เอาตัวออกมาโชว์ ท้ออยากหนีวงการไปอยู่เมืองนอก บอกเป็น "คู่แรด" กับหฺญิงแม้นเพราะมีข่าวฉาวตลอด
นึกว่าปิดปากเงียบแล้วเรื่องจะจบ แต่สงครามน้ำลายระหว่าง ฟลุค-เกริกพล กับไฮโซลูกครึ่ง ชัญญ่า ทามาดะ เกือบจะต้องปะทุขึ้นมาอีกรอบ เมื่อฝ่ายชายได้ไปพูดกัดอีกฝ่ายในงานเปิดตัวพ็อกเก็ตบุ๊ค "ผู้หญิงร้าย ผู้ชายรัก" ของพิธีกรสาว กาละแมร์-พัชรศรี ที่ผ่านมา ในทำนองว่า ชัญญ่าเป็นร้ายตัวแม่ ได้อ่านหนังสือเล่มนี้แล้วจะได้ไม่หลงกล ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าชัญญ่าจึงได้ตรงเข้าสอบถามว่ารู้สึกอย่างไร กับคำพูดเหน็บแนมจิกกัดของฟลุค เจ้าตัวทำหน้าตกใจย้อนถาม

"ห๊า...พูดอีกแล้วเหรอ อันนี้ไม่รู้แล้วแต่คนคิด หนูไม่ยุ่งแล้ว หนูไม่มีอะไรที่ต้องไปเกี่ยวข้องกับเขาแล้ว ก็ให้มันจบพอแล้ว..เหนื่อย หนูก็ไม่คิดว่าข่าวจะใหญ่โตขนาดนี้ หนูแค่อยากจะเคลียร์ให้แม่สบายใจ ให้คนรอบข้างสบายใจ บางทีคนที่พยายามจะเขียนออกไป เขาไม่ได้อยู่ข้างเรา มันก็กลายเป็นโชคร้ายของเราไปแค่นั้น"

แล้วรู้สึกอย่างไรกับคำสัมภาษณ์ของแมน-ศุภกิจ ที่บอกว่า ฟลุคได้บุญที่ทำให้ชัญญ่าดังสมใจ? "เขาพูดอย่างนั้นเลยเหรอ หนูว่าเขาคงไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น เขาเป็นผู้ใหญ่แล้วไม่น่าจะพูดนะ หนูก็ได้ยินมาว่าเขาพูดถึง แต่ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไร ส่วนตัวหนูไมเคยรู้จักพี่แมน แต่ก่อนเราเคยปลื้มพี่เมจิ เขาน่ารักดี แต่ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาว่าอะไรหรือเปล่า หนูยังไม่ทราบว่าเขาพูดจริงหรือเปล่า เขาพูดจริงเหรอ (เบื่อมั้ยที่เรื่องไม่จบ?) เบื่อมากเลยที่ดึงคนอื่นมาเกี่ยวข้อง หนูก็โอ๊ย...ตายแล้ว เขาจะว่าหนูมั้ยเนี่ย เขาคงคิดว่าทีหลังไม่อยากมายุ่งกับเด็กคนนี้แล้ว (หัวเราะ)"

มีกระแสข่าวบอกว่า แฟนตัวจริงของชัญญ่าไม่ใช่วิน แต่เป็นผู้ชายชื่อ "เจ๋ง"? "เขาเป็นคนรู้จักค่ะ ไม่ใช่แฟนแน่นอน ถ้าจะจับให้เป็นแฟนเป็นคนอื่นดีกว่ามั้ย ที่มีภาพไปญี่ปุ่นด้วยกัน วันนั้นเราไปกันเป็นสิบๆ คน มีพ่อกับแม่ไปด้วย เพราะไปทัวร์มอเตอร์โชว์ด้วยกัน บอกตรงๆ กับเจ๋งไม่สนิทเลย นานๆ ทีจะได้คุยกับเขาสักที เราไม่เคยคบกันและไม่ได้เจอเขานานเป็นเดือนแล้ว ก็ยังงงว่าทำไมเป็นข่าวกับเขาได้"

"พอมีข่าวกับพี่เจ๋ง พี่วินก็เอ๊ะ....เป็นใคร วันนั้นที่นักข่าวถามเขาก็มาทำหน้างอนๆ ใส่หนู หนูก็อะไรเนี่ย ก็พยายามอธิบายให้เขาฟัง หนูก็บอกไม่มีอะไร ถ้ามีก็น่าจะรู้มาตั้งนานแล้วเพราะสนิทกัน (มีข่าวทะเลาะกับวิน?) ก็อาจจะมีงอนๆ กันบ้าง เพราะเข่าวแต่ละอย่างที่มาน่ากลัวมาก (หัวเราะ) แต่ไม่มีอะไร ตอนนี้พี่วินก็เข้าใจแล้ว ก็ยังคุยๆ กันอยู่ หนูอยู่กับพี่วินทุกวัน จะเอาเวลาที่ไหนไปอยู่กับคนอื่น"

สรุปว่าวินยังเป็นเพื่อนที่พิเศษที่สุด? "หนูสนิทกับพี่วินที่สุดแล้วตอนนี้ อาจเป็นเพราะสัมภาษณ์ครั้งที่แล้วหนูบอกว่าเป็นเพื่อนสนิท เขาเลยเหมือนจับคนให้มาคู่กับหนู คงมีคนบางคนที่ไม่หวังดีมั้งคะ คือถ้าจับใครได้แล้วมีรูปด้วย ก็เอามาลงเป็นข่าว ตอนนี้ไม่ว่าหนูทำอะไรก็กลายเป็นไม่ดี อาจจะมีนักข่าวบางคนที่อาจจะไม่ชอบหนู ก็ไม่ทราบเหมือนกัน แต่คนชื่อเจ๋งไม่ใช่แฟนหนูแน่นอน หนูกลัวครอบครัวเขาเดือดร้อน ที่เอาเขามายุ่งกับหนูด้วย นี่ก็ยังไม่ได้คุยกับพี่เจ๋งเลยว่าเป็นยังไง ได้ยินข่าวหรือยัง หนูไม่ได้เจอเขาเป็นเดือนแล้ว"

แล้วข่าวชัญญ่ามีผู้จัดการส่วนตัว 3 คนล่ะ? "หนูไม่มีผู้จัดการส่วนตัว วันก่อนอ่านข่าวยังงงอยู่เลยว่า มีผู้จัดการ 3 คนดูคิวละคร โฆษณาด้วย แต่ไม่มีค่ะ ตอนนี้หนูรับงานเอง และปรึกษาคุณแม่ ส่วนพี่วินก็ช่วยพูดให้แต่ไม่ใช่ผู้จัดการแน่นอน จริงๆ หนูก็อยากได้ผู้จัดการส่วนตัว เพราะบางทีเราปฏิเสธงานเองก็โดนผู้ใหญ่ว่ามาหลายครั้งแล้ว อาจจะต้องมีบ้างแต่ไม่มีตอนนี้ เพราะเรื่องงานละครเป็นเรื่องของอนาคต ส่วนงานเดินแบบและงานอื่นๆ ก็มีติดต่อมา แต่ยังไม่รับอะไรเลย ถ้างานไหนชอบเราถึงค่อยรับ อย่างงานอีเว้นท์ที่เดินแบบกับดาราที่เราปลื้มมานานก็จะรับ"

ล่าสุดมีข่าวชัญญ่ามีเสี่ยเลี้ยง และให้ค่าตัวคืนละ 4 หมื่นบาท? "มันแค่ 4 หมื่นเองอ่ะ (หัวเราะ) ไม่เอา.....ไม่ไหว แม่เห็นแล้วก็ขำตลกมาก ส่วนตัวก็รู้สึกว่าเขาพูดดูถูกเรา แต่ถ้ามันไม่จริงตามยังไงก็ไม่เจอ ก็เอามาสิเสี่ยคนไหนเลี้ยง (หัวเราะ) โชว์เลย พี่คงเอาไปเขียนว่าชัญญ่าท้าโชว์ใช่มั้ย ไม่ว่าตอนนี้หนูพูดอะไรมันกลายเป็นหัวข้อที่แรงๆ ทั้งนั้น ก็เลยไม่อยากพูดอะไรมากแล้ว"

"ถามว่าข่าวมีผลทำให้ไม่อยากอยู่ในวงการมั้ย มันก็นิดหนึ่งแต่ก็เข้าใจว่ามันต้องมีบ้าง ก็ไม่ซีเรียสยังพอยิ้มได้อยู่ วันก่อนไปดูหนังกับหญิงแม้น ก็ยังพูดกันว่าเราเป็นกลุ่มฉาว หญิงแม้นบอกว่าเราห้ามอยู่ด้วยกันบ่อย เดี๋ยวเราจะกลายเป็นคู่แรด (หัวเราะ) เพราะข่าวเราฉาวทั้งสองคน ตลกขำๆ ไม่เครียด ถามว่าเสียใจมั้ย...เสียใจ แต่ตอนนี้หายเครียดบ้างแล้ว หนูจะซีเรียสเรื่องเรียนมากกว่า เรายังไปไม่รอดไม่ได้ติดต่ออะไรเลย หนูว่าจะไปอยู่อังกฤษ พอดีพี่สาวจะไปอังกฤษก็คิดว่าจะไปด้วยถ้ามันไม่จบจริงๆ"

คิดจะหนีข่าวไปอยู่เมืองนอกเลย? "ไม่ค่ะ ตั้งใจไปเรียนมากกว่า แต่จะลองดูมหาวิทยาลัยที่เมืองไทยก่อนเพราะยังไม่ไปสอบเลย ถ้าไปจริงๆ คงปลายปี แต่อยู่ที่นี่ก็ไม่ไหวนะ อยู่อย่างนี้มันปวดหัว เครียด น้ำหนักลดลงไป 8 กิโลแล้วตั้งแต่เป็นข่าว พี่ลองกลับไปดูรูปตอนนั้นสิ ตอนนี้ผอมฮวบเลย จากน้ำหนัก 49 เหลือแค่ 41-42 ผอมก็ดีแต่มันเครียดเหนื่อย ปวดหัวไม่กินข้าว ไม่เข้าใจว่าอะไรกันอีก มันเหนื่อยจริงๆ ไม่มีใครเข้าใจหนูหรอก"

Sunday, March 29, 2009

มาร์ท มองหาคู่ชีวิต

มาร์ท มองหาคู่ชีวิต มีข่าวกับสาวๆไม่เว้นวันทั้งกับ "พลอย-ชิดจันทร์" และ "กวาง-ฐิติรัตน์" แต่ "มาร์ท-กฤษฎา พรเวโรจน์" ก็ไม่เคยยอมรับ เลยทำให้ได้ตำแหน่ง "พระเอกปากแข็งเจ้าเสน่ห์" ไปซะเลย"ผมไม่ได้ปากแข็งนะ ถ้ามันไม่ใช่ก็ไม่รู้จะยอมรับยังไงน่ะครับ ผมชินแล้วกับข่าวและเดี๋ยวนี้คนก็เข้าใจว่าข่าวคือข่าว และไม่ใช่เรื่องจริงทั้งหมด ผมว่าเพราะผมยังไม่มีใครมากกว่าเลยดูเป็นคนที่รักคนยาก นี่ผมก็เป็นโสดมาหลายปีแล้ว 4 ปีแล้วครับ ก็เพราะยังไม่เจอคนที่เหมาะกับเรามากกว่า ผมมองว่าเราก็ไม่ใช่เด็กแล้ว จะดูใครที่จะมาร่วมชีวิตกับเราก็ต้องเลือกคนที่เหมาะกับเราจริงๆ ต้องเข้ากับผมและที่บ้านได้ สเป็คผมบอกตายตัวไม่ได้ คืออาจจะมีดูตอนแรกหน้าตาโอเค แต่ว่าคุยๆไปแล้วรู้จักแล้วมันไม่เหมือนกันก็มีนะครับ"

นิกกี้ อดีตรองมิสทีน อนาคตอาจดับ

นิกกี้" อดีตรองมิสทีน อนาคตอาจดับ น.ส.พานทอง หรือนิกกี้ อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 2 คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อยู่ บ้านเลขที่ 44 ซอยแจ้งวัฒนะ4 หมู่ 4 แขวงอนุสาวรีย์ เขต บางเขน กทม. เคยเข้าร่วมประกวดนางงามมิสทีนไทยแลนด์ 2007 ได้รับตำแหน่งรองอันดับ 1 เคยถ่ายแบบนิตยสาร มีผลงานละครเรื่องพลิกฟ้าล่าตะวัน ทางช่อง 7 อีกทั้งเคยมีข่าวไปเที่ยวผับที่ศูนย์การค้าเซ็น ทรัลกาดสวนแก้ว จ.เชียงใหม่ กับเพื่อนเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมา แล้วเพื่อนถูกกลุ่มวัยรุ่นยิงเสียชีวิต ส่วนนายฉัตรชัย แฟนหนุ่ม เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ที่ตำรวจหลายพื้นที่ต้องการตัวมากที่สุด เนื่องจากเป็นเอเยนต์ค้ายาบ้ารายใหญ่ย่านดอนเมืองถูกจับกุมในขณะ นำเงิน 300000 บาท มาติดสินบนเจ้าหน้าที่ตำรวจโดย นายฉัตรชัย เป็นผู้เสนอให้สินบนเจ้าหน้าที่ชุดจับกุม เป็นจำนวนเงิน 300,000 บาท โดยจะให้แฟนสาวนำเงินมาให้ เจ้าหน้าที่จึงซ้อนแผนจับกุม จนกระทั่ง น.ส.พานทอง หรือนิคกี้ แฟนสาวของนายฉัตรชัย เดินทางนำเงินมามอบให้ เจ้าหน้าที่จึงจับกุม น.ส.พานทอง อีกคน โดยดำเนินคดีนายฉัตรชัยในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร มีและใช้ซึ่งเอกสารราชการปลอม และแจ้งข้อหาร่วมกันทั้ง 2 คน ว่าให้สินบนเจ้าพนักงาน เพื่อจูงใจให้กระทำการไม่กระทำการ หรือประวิงการกระทำใดมิชอบด้วยหน้าที่ ก่อนนำตัวไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังพร้อมทั้งคัดค้านการประกันตัว

Saturday, March 28, 2009

แฟนใหม่ กอล์ฟ พิชญะ

แฟนใหม่ กอล์ฟ พิชญะ เปิดตัวแล้วจ้า... แฟนคนใหม่ของนักร้องสุดฮอตที่ตอนนี้กลายเป็นนักรักไปซะแล้วอย่าง ''กอล์ฟ พิชญะ'' หลังจากที่ห่างเหินจากนางเอกรุ่นพี่ ''พลอย เฌอมาลย์'' ก็หันไปคั่ว ''น้องหมวยหน้าม้า'' เชิดใส่เจ๊พลอยหลังจากที่พลอยออกมาประกาศว่าไม่เคยเป็นอะไรกัน ทั้งๆ ที่จูงมือกันไปเที่ยวพัทยาสองต่อสอง

แต่พลอยก็ยังยอมรับว่าคบกอล์ฟในฐานะเพื่อนพี่น้องเท่านั้นไม่มีอะไรในกอไผ่อย่างที่หลายคนคิด ส่วนด้านนายกอล์ฟก็ดูเหมือนตากไม่เคยแห้ง เลือดหนุ่มกำลังสูบฉีดพล่าน เพราะมีสาวๆ เรียงคิวเข้ามาให้ใช้สอยอยู่เป็นประจำ ...ระวังปืนจะหักนะนายกอล์ฟ!!

คลิปหลุด วี วีรภาพ

คลิปหลุด วี วีรภาพ เจออีกแล้วจ้าคลิปหลุด... ของพระเอกฮอต ''วีรภาพ'' กำลังนัวเนียน้อง ''เอ็มมี่'' นางเอกน้องใหม่จากเดอะกิ๊ก ชนิดแนบแก้มกันอย่างสุดซึ้ง แหม...ดูยังไงก็รู้ว่าทั้งคู่ต้องซี้ย้ำปึ้ก ไม่งั้นคงไม่อิงแนบชิดกันขนาดนี้ ไม่เสียแรงที่ วีรภาพได้ฉายาคาสโนว่าแห่งประเทศไทย เพราะได้ใกล้ชิดสาวระดับนางเอกแทบทั้งนั้น

ด้านน้องเอ็มมี่พอรู้ข่าวถึงกับตกใจรีบแจงข่าวไม่มีอะไรในกอไผ่กับพระเอกฮอตวีรภาพ แค่รู้จักกันในฐานะพี่น้องเท่านั้น พร้อมเปิดเผยโทรศัพท์มือถือหายเมื่อเดือนที่แล้วจึงเป็นเหตุทำให้มีคลิปหลุดออกมา!!

Friday, March 27, 2009

กบโต้มีน้อง ยันแค่อ้วนขึ้น

กบโต้มีน้อง ยันแค่อ้วนขึ้น แย้มเป็นคนรักเด็ก (อยากมีลูกแล้ว) ขอเที่ยว 2 คนก่อน รอ 'บรู๊ค' ว่างฮันนีมูนอเมริกาหลังจากโดนข่าวลือว่า เบนโลก่อนแต่ง แต่สำหรับนางเอกสาววิก 7 สี 'กบ สุวนันท์ คงยิ่ง' ก็เมินข่าวฉาว แถมยังยืนยัน นั่งยันล้านเปอร์เซ็นต์ว่าไม่ได้ท้องแน่นอน พอกลายเป็นลูกสะใภ้ของคุณแม่ดาริดาและเป็นภรรยาที่ดีของ 'บรู๊ค ดนุพร ปุณณกันต์' สาวกบก็จะมีน้ำมีนวล สวยขึ้น ดูตัวจะอวบอ้วนขึ้น งานนี้หลายคนเริ่มเข้ามาทักขึ้นเรื่อยๆแล้ว มีลุ้นว่าจะมีลูกหรือเปล่า เจอคนทักอย่างนี้เจ้าตัวก็เผยออกมาว่า "มีคนมาทักว่าอ้วน คือตอนนี้ไม่ได้ทำงานละคร แต่ช่วงนี้จะทำแค่งานพิธีกร เลยไม่มีเวลาไปดูจอมอนิเตอร์ แล้วก็นอน กิน ใช้ชีวิตแบบมีความสุข กำลังให้ชีวิตกลับตัวเองเยอะขึ้น"

เตรียมตัวเป็นว่าที่คุณแม่หรือเปล่า "ยังค่ะ ตอนนี้ยังเลย" อีกนานมั๊ย "ยังไม่ได้คุยค่ะ ตอนนี้ก็ไปเช็คร่างกาย ตรวจสุขภาพให้ดีก่อน"คิดว่าให้ปล่อยไปตามธรรมชาติหรือเปล่า "คงไม่มีค่ะ ยังไม่มีในช่วงนี้ และก็ยังไม่ได้แพลน" มีอาการน้อยใจบรู๊คไหม "ไม่ค่ะ ไม่น้อยใจเลย ค่อนข้างเข้าใจ หรืออาจจะชินแล้ว เพราะพี่เขาก็ทำงานตรงนี้มาได้สักพักหนึ่ง แต่เขาก็กลัวเราเหงา ถ้าเขาว่างก็พาไปเที่ยวบ้าง เราก็ออกไปออกกำลังกาย ตอนนี้ก็ไปเรียนพิเศษภาษาต่างประเทศ ไปเรียนกำลังออกกาย ตีเทนนิสบ้างด้วย"ฮันนีมูนเมื่อไหร่ "ก็รอปิดเทอม ตอนนี้ก็รอพี่บรู๊คว่างก่อนก็จะเดือนพฤษภา ปลายเมษาแล้ว ก็คงจะไปอเมริกา แต่กบคงไม่ได้หยุดนาน เพราะต้องมีรายสดอย่าง 07 โชว์ที่ต้องทำ จันทร์พันดาวก็ต้องรออัดอยู่ ก็น่าจะได้ไปเพราะขอเอาไว้แล้ว"บรู๊คมีเล็งอยากมีน้องมั๊ย "ไม่คะ พี่บรู๊คไม่เลย เพราะเขาขอเที่ยวก่อน เขาคงเห็นทางครอบครัวพี่บีและก็น้องสาวเขา พอมีลูกแล้วก็ไม่สามารถไปไหนได้ หาเวลาไปเที่ยวด้วยกันสองคนก่อนดีกว่า"


คุณแม่ดาริกามีการเร่งให้มีหลานมั๊ย "ไม่มีค่ะ เพราะตอนนี้ก็มีหลาน 3 คนแล้ว ก็ไม่ได้เร่งอะไร ซึ่งเราก็ไม่ได้มีการคุยกันถึงเรื่องนี้เลย"แล้วกบพร้อมอยากมีน้องมั๊ย "ก็ได้ยังไงก็ได้ มันต้องเป็นมติที่เอกฉันท์ทั้งสองฝ่าย กบเป็นคนชอบเด็ก แต่ถ้ากบมีลูกมันก็ดี แล้วก็ไม่อยากเร่ง"เสียดายในงานวงการอยู่หรือเปล่า ถึงไม่อยากมีน้อง "ไม่เกี่ยวกัน อาจจะเป็นเพราะเพิ่งแต่งงานด้วย อย่างที่พี่บรู๊คบอกว่า อยากเที่ยวกันก่อน ยังไม่ได้คุยถึงว่าอยากมีกันกี่คน เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายดี"ช่วงนี้ดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง "ก็ไปออกกำลัง ทานอาหารอิ่มหมีพีมัน จนโดนดุลงหนังสือพิมพ์ไทยรัฐเลยที่โดนแซว ก็ขึ้นมาไม่เยอะแค่โลเดียว แต่ถ้ารู้ถึงคุณแดงคงโดนดุเหมือนกัน"กลัวเรื่องอายุที่จะมีลูกมั๊ย "ก็กลัว คือเราปล่อยให้อายุเยอะเกินไป แต่หลายคนก็บอกว่ายังได้อยู่"

แพนเค้ก-เขมนิจ ยันจุ๊บแค่เรื่องงาน

แพนเค้ก-เขมนิจ ยันจุ๊บแค่เรื่องงาน แหม เล่นเอาอึ้งกันไปทั้งห้างเลยนะ เมื่อ แพนเค้ก-เขมนิจ จามิกรณ์ ไปจูจุ๊บแก้มของ พี่เวียร์-ศุกลวัฒน์ ในงานอีเว้นท์ “เซ็นทรัลเวิลด์ ซัมเมอร์ อันลิมิเต็ด 2009” หลังวันงานนักข่าวได้ตามไปถาม แพนเค้ก เรื่องเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงความเหมาะสมไม่เหมาะสม ซึ่งนางเอกสาววัยใสตอบว่า “มันแล้วแต่คนมองมากกว่า แต่จริงๆเป็นคอนเซปต์ของงานด้วย ซึ่งเราก็ไม่ได้ทำอะไรจนเกินไป ดูขำๆ เป็นอารมณ์การแสดง สไตล์ญี่ปุ่น แล้วพี่เวียร์ก็เล่นเยอะอยู่ ถ้าแพนเล่นน้อยเราก็จะแพ้เค้า เราก็เลยต้องนิดนึง (ยิ้ม)” ตอนจุ๊บเขินมั้ย? (หัวเราะ) “ไม่เขินค่ะ เพราะเล่นละครร่วมกันมาพอสมควร บนเวทีนั้นก็เหมือนเป็นโชว์ เล่นไปตามคอนเซปต์” แล้วที่จุ๊บบนเวทีนั้นเป็นการแสดงหรืออินจริง? “วันนั้นออน โชว์อยู่ ก็เล่นตามคอนเซปต์ไป” ดูเหมือนแพนกล้ารับงานแบบนี้มากขึ้น? “เพราะเป็นพี่เวียร์ด้วยมั้งคะ ด้วยความที่เป็นคนใกล้ตัว คุ้นเคยกันอยู่แล้ว ถ้าให้เล่นกับคนอื่นที่เราไม่สนิท ให้ทำขนาดนั้นก็คงไม่ไหว เท่าที่แพนทำก็เป็นเรื่องพอสมควรที่เราพอทำได้ และแพนก็ไม่ได้ทำยังงี้บ่อยๆ หรือตามที่สาธารณะ อยากให้เปิดใจกว้างๆ”.

Thursday, March 26, 2009

นก ษณีย์ โต้อัพค่าตัวเดินแบบ

นก ษณีย์ โต้อัพค่าตัวเดินแบบ กลายเป็นสาวร้อนที่ใครๆ ก็อยากดึงตัวไปร่วมงานด้วย สำหรับสาว นก-อุษณีย์ วัฒฐานะ แว่วว่าตั้งแต่มีชื่อเสียงสาวนกก็ทำตัวไม่ติดดิน อัพค่าเฉียดแสนต่อการโชว์ตัวหนึ่งครั้ง เจ้าตัวรีบปฏิเสธยังไม่ถึงขั้นเทพขนาดนั้น “โอ้ย...ไม่ถึงเลย อยากได้มากเลยค่ะ อย่างงานชุดชั้นในที่นกเดินล่าสุดคงมีคนเม้าท์กันว่าเดินชุดชั้นในคงได้ตังค์เยอะ แต่จริงๆ ชุดมันไม่ได้เยอะ ถ่ายรูปออกมาดูไม่รู้เลยว่าเป็นชุดชั้นในเพราะมันมีเสื้อคลุมเยอะแยะ แล้วก็ไม่ได้เงินเยอะไปกว่าแฟชั่นโชว์บางงานเลย แต่ละคนก็มีเกณฑ์ค่าตัวต่างกัน แล้วนกก็มีคนคอยสกรีนชุดให้ตลอด ถ้าไม่แรงเกินไปก็รับ แล้วก็ไม่ได้อัพค่าตัวอะไร ตั้งแต่ทำงานอีเว้นท์มายังไม่มีถึงแสนเลยซักงาน บางทีบอกคนอื่นไปยังบอกว่าถูกจัง ทั้งนี้ก็แล้วแต่งาน ถ้างานยาก มีวันซ้อมทางงานเค้าก็จะให้เพิ่มอยู่แล้วค่ะ”

ล่าสุดสังเกตเห็นว่าจมูกนกปลูกๆ ไปเหมือนจะโด่งขึ้น“จมูกนกโด่งมาตั้งนานแล้วนะ เดี๋ยวเอารูปตอนอนุบาลให้ดูมั้ย แต่ชินแล้วมีคนทักว่านกไปทำจมูกมาตลอดอยู่แล้ว แต่จมูกนกจะกระดูกจะไม่เสมอกันถ้าคนรู้จักเห็นก็จะไม่คิดอย่างนั้น อยากเหลาออกเหมือนกัน แต่คุณหมอบอกว่ามันไม่คุ้มกับที่ต้องเจ็บ มีคนบอกว่าถ้าไปเหลาก็จะยิ่งดูเหมือนทำมาจริงๆ ก็เลยปล่อยไว้อย่างนี้”ถามเรื่องวีรภาพ รู้สึกยังไงบ้างที่โดนทางช่อง 7 เรียกตักเตือน“ไม่รู้จะพูดอะไร มันไม่เกี่ยวกับนก(หัวเราะ) พี่เค้าโตแล้วคงรู้ว่าอะไรถูกอะไรไม่ถูก ถ้าเค้าทำอะไรผิดก็มีผู้ใหญ่ที่ช่องคอยดูแลตักเตือน นกคงไม่ต้องไปออกความคิดเห็นอะไรหรอกค่ะ ลอยตัวแล้ว”

ขวัญ ตัวปลอม โฟนอิน แหกตา

ขวัญ ตัวปลอม โฟนอิน แหกตา เป็นข่าวเกาเหลากับดาราไปทั่วยังไม่ พอ ล่าสุดนี่นางเอกสาว ขวัญ-อุษามณี ก่อ คดีใหม่ ให้คนรู้จักสวมรอยเป็นตัวเอง “โฟนอิน” เข้าไปหลอกในรายการวิทยุ ซึ่งเรื่องนี้เกิดขึ้นในช่วง “โชว์เป้า เชาโป้ง” ของคลื่น 94 EFM ตอนเย็นวันก่อน ซึ่งทีมงานได้มีการนัดกับ ขวัญ จะโทร. เข้าไปสัมภาษณ์ออกอากาศสดเกี่ยวกับข่าวเกาเหลาดารา ซึ่งคู่กรณีล่าสุดก็คือ ส้ม-ณัฐวรา ในกองละคร “มือนาง” ทางช่อง 7 เมื่อถึงเวลาทีมงานก็โทร.ไป และต่อสัญญาณโฟนอินออกอากาศ ซึ่งหลังจากที่ 2 ดีเจ โป้ง กับ เชาเชา สัมภาษณ์ไปได้ซักระยะก็รู้สึกว่าเสียงที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นี้ไม่ใช่ ขวัญ ประกอบ กับมีผู้ฟังส่ง sms เข้ามาต่อว่ารายการว่าแหกตา เอา ขวัญ ตัวปลอมมาหลอกสัมภาษณ์ ทาง 2 ดีเจจึงพูดดักคอไปว่า นี่ไม่ใช่ ขวัญ นี่นา แต่เสียงผู้หญิงปลาย สายก็ยืนยันว่าเป็น ขวัญ จริงๆ ก่อนจะมีการตัดสายไปเพื่อพักเบรกรายการ หลังจากนั้นไม่นานทางรายการได้โทร.ไปยังเบอร์โทรศัพท์สายเดิมอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้กลับกลายเป็น ขวัญ ตัวจริงรับสาย และกล่าวขอโทษ อ้างว่าเมื่อกี้ตนหลับไป พี่ที่รู้จักเลยรับสายและให้สัมภาษณ์แทน จากนั้นก็ทำเนียนๆให้สัมภาษณ์ต่อไป จากกรณีนี้ได้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ไปทั่วถึงพฤติกรรมอันพิลึกพิลั่นของนางเอกสาว.

Wednesday, March 25, 2009

สาระแนขอขมา หม่ำหายงอน

สาระแนขอขมา หม่ำหายงอน ตลกแถวหน้า "หม่ำ จ๊กมก" กลับลำยอมให้หนัง "สาระแนห้าวเป้ง" ฉาย!!! หากตัดต่อมาดี อ้างที่ผ่านมาแค่งอน แถมตีมึน! ไม่รู้ว่าเป็นหนังฯ ของสหมงคลฟิลม์!!! ด้าน "เปิ้ล นาคร" แจง 1 เม.ย. จัดงานเปิดตัวหนังฯ

ในที่สุดก็ยอมใจอ่อนจูบปากกันด้วยดีแล้ว สำหรับกรณีที่ตลกแถวหน้าอย่าง "หม่ำ จ๊กมก" หรือ "นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา" ถูกทางทีมงาน "สาระแน" ที่มี 3 พิธีกรดัง "วิลลี่ แมคอินทอช", "เปิ้ล - นาคร ศิลาชัย" และ "หอย - เกียรติศักดิ์ อุดมนาค" เป็นผู้อยู่เบื้องหลัง ส่งทีมงานไปอำ โดยนัดให้มาถ่ายทำโฆษณาให้กับโครงการเมาไม่ขับ จนโดนแกล้งเข้าอย่างแรง!!! บังคับให้นั่งรถฝ่าแก๊สระเบิด ซึ่งเป็นสิ่งที่ด้านตลกดังกลัวที่สุดในชีวิต จนเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นในที่สุด ซึ่งทีมงานจะนำภาพเหตุการณ์ดังกล่าวมาไว้ในส่วนหนึ่งของภาพยนตร์เรื่อง "สาระแนห้าวเป้ง" นั่นเอง

หลังจากที่ตลกดัง "หม่ำ จ๊กมก" แสดงท่าทีโกรธจัด! ชนิดเหมือนจะไม่ยอมให้อภัยง่ายๆ ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้(25 มีค.) ทาง 3 พิธีกรดัง "วิลลี่ - เปิ้ล - หอย" พร้อมด้วย "เป้ - นฤบดี เวชกรรม " ผู้กำกับฯ ได้เดินทางมายัง บริษัทเวิร์คพอยท์ เพื่อนำพานดอกไม้ธูปเทียน เข้ามาขอขมาทางตลกดัง เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว ซึ่งในวันนี้ท่าทีของ "หม่ำ" ดูอ่อนลงมาก หน้าตายิ้มแย้มพร้อมให้อภัยโดยดี โดยบอกว่าที่ผ่านมาตนแค่งอนเท่านั้น ส่วนถ้าตัดต่อออกมาดีก็จะยอมให้เอาภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของหนังฯ ก่อนตีมึนบอกเพิ่งรู้ว่าเป็นหนังของค่ายสหมงคลฟิล์ม ซึ่งนอกจากนั้น 3 พิธีกรยังมีการชง ช่วยพูดโปรโมตทอล์คโชว์ “หม่ำ ON STAGE” ที่จะจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้อีกด้วย

จะให้ภาพวันนั้นออกมาไหม? หม่ำ "ผมขอดูก่อนๆ ว่ามันประมาณไหนถ้ามันไม่เลวร้ายอะไรมาก แต่วันนั้นไม่รู้เขาตัดยังไง เพราะวันนั้นผมระเบิดอารมณ์ ไม่แล้ว ไม่พี่ไม่น้องกันแล้ว ไม่เอาแล้ว"

เคยพูดไว้ถึงขอโทษก็ไม่ให้นำภาพมาออก? หม่ำ "ผมไม่รู้ว่าเขาตัดต่อกันยังไง ถ้าเขาตัดต่อมาดีๆ ถ้ามาคุยดีๆ ก็คงไม่น่าใช่ปัญหา แต่ผมขอดูก่อน เพราะวันนั้นสองคนก็รู้อยู่แล้วว่าอารมณ์ผมเป็นยังไง ขาผมสั่นอย่างเนี้ยะ แล้วมันยังมีหน้ามาอมยิ้มขาผมสั่นน่ะ แล้วมันไม่ตลกด้วย "ไอเปิ้ลมึงไม่ต้องมายิ้ม กูไม่ตลกด้วย" ผมพูดอย่างนี้ แต่ขาผมน่ะรู้ไหมแบบ... คล้ายๆ จิตผมออกจากร่างไปแล้วน่ะ แต่มันอมยิ้มกันแบบสนุกสนานมันน่ะ นี่ผมไม่สนุกด้วยสิ"

มีข่าวว่ามีคนกลางมาช่วยเคลียร์ให้? หม่ำ "ตอนนี้ยังๆ ผมยังไม่ได้คุยกับใครเลย" เปิ้ล "เห็นเสี่ยบอกว่าเขาเคลียร์ให้" หม่ำ "ก็ไม่รู้ล่ะ ก็ยังไม่ได้คุยกัน เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที เบื้องต้นผมขอดูภาพอันนั้นก่อน" เปิ้ล "แต่วันนี้พี่หายโกรธพวกเราแล้ว" หม่ำ "หายโกรธ พี่บอกสื่อ พี่บอกทุกคน พี่ไม่ได้โกรธ พี่งอน"

หายงอนแล้วใช่ไหม? หม่ำ "รู้สึกดีขึ้นมาก ที่จริงน่าจะมานานแล้วคือมันปล่อยมาเนิ่นนานแล้วนะเนี่ย"

ทำไมทั้งสามคนถึงตัดสินใจมาวันนี้? เปิ้ล "ก็ที่ตัดสินใจมานี่ก็คือ ตัดสินใจมาตั้งแต่ ณ วินาทีแรกแล้วครับว่ายังไงเราก็ต้องขอโทษพี่เขาเพราะว่าเราคำนวนอารมณ์พี่เขา ไม่คิดว่าจะแรงขนาดนั้น ก็กะว่ายังไงเปิ้ล, หอยก็วิ่ง วิ่งไปแล้วก็หอยเร็วไปขอโทษเร็ว แต่ปรากฏว่าไม่เลิกก็มานั่งคุยกันว่ายังไงเราก็ต้องเอาดอกไม้มาขอขมาพี่เขา"

ปล่อยไว้เป็นเดือนเลย? เปิ้ล "ก็มีโทร.ไป 1 วันเลยครับ โทร.ไปแล้วก็ปกติเขาไม่ค่อยรับสาย แล้วมีอยู่วันหนึ่งเขาก็รับสายทีนี้ก็สาดมาในโทรศัพท์ โทรศัพท์สายไหม้ไปเลย หลังจากนั้นก็ติดต่อพี่ชายผมอีกไม่ได้ แต่ผมยังมีความเชื่ออยู่เสมอว่าพี่หม่ำเป็นคนที่น่ารักมาก เพราะฉะนั้นเขาไม่โกรธเรานาน"

ไหนตอนแรกบอกจะหลบ ให้หาตัวให้เจอ? หม่ำ "วิลลี่โทร.มาก่อนเลยนะ ก็ยังบอกว่าวิลลี่ พี่ไม่ได้โกรธๆ แต่พี่งอน คือตอนนี้พี่ไม่อยากเจอหน้าเท่านั้นเอง แต่ถ้ามา... นี่เขารู้ว่าผมมาอัดรายการชิงร้อยฯ" เปิ้ล "ผมมาวันนี้อยากจะขอโทษ" หม่ำ "ก็รู้แล้วไง คุณนาคร" เปิ้ล "แล้วก็อยากขอบัตรไปดูหม่ำโชว์" เปิ้ล "ไม่ฮะ งานนั้นเขาเสียบัตรไปดูกันครับ เขาไม่ขอบัตรฟรีกันครับผม แล้วเรื่องค่าตงค่าตัวผมไม่ได้คุยด้วยนะ ที่ไปถ่ายอะไรของคุณน่ะ ใช่ โฆษณาอะไรน่ะผมยังไม่เรียกค่าตัวคุณเลย นี่คุณไปคุณต้องไปเสียตั๋วดูด้วย ผมเชิญคุณขึ้นไป คุณต้องขึ้นไปด้วย"

จะเอาตัวอย่างหนังฯที่ตัดต่อเสร็จให้ "หม่ำ" ดูเมื่อไหร่? เป้ ผู้กำกับ "เดี๋ยวคงต้องรอตัดต่อเสร็จก่อนครับ เดี๋ยวจะแจ้งให้ทราบ" หม่ำ "เดี๋ยวผมบอกก่อนนะว่า ผมไม่รู้เรื่องหนังนะ ผมนึกว่าเป็นสาระแนนะ ผมขอบอกก่อนนะ"

ก็คือจะปฏิเสธก่อนเลยว่าไม่ได้โปรโมทหนัง? หม่ำ "ผมบอกเลยว่าผมไม่เกี่ยว คุณจะทำยังไงก็เรื่องของพวกคุณอยู่แล้ว แต่ผมจะตายๆ ตอนนั้นผมจะตาย แต่ผมขอดู" เปิ้ล "แต่ตอนนี้ไม่ตายแล้ว" หม่ำ "ก็ยังมีชีวิตอยู่น้อง"

ทำไมเปลี่ยนท่าที? หม่ำ "ผมไม่ได้ลด แต่ผมขอดูหนังก่อน แล้วจุ่ๆ จะไปเอาออกโดยที่ผมไม่ได้ดูเลยหรอ ผมขอดูก่อน" เปิ้ล "แต่ออกมาน่ารักน่ะพี่" หม่ำ "ขึ้นอยู่กับน้องตัดต่อไง แล้วนี่ถ้าภาพตัดต่อมาแล้วดูไม่ดี ผมก็คง no"

มั่นใจขนาดไหนว่า "หม่ำ" จะปลื้ม? เปิ้ล "ก็ต้องให้พี่หม่ำดูอันดับแรก อันที่สองเรามั่นใจฮะว่าปฏิกิริยาในวันนั้นเนี่ย คือถึงเขาโกรธแต่มันออกมาน่ารักมากน่ะฮะ เรารู้สึกว่าน่ารักน่ะ คนอะไรโกรธแล้วยังออกมาน่ารัก อันนี้จริงๆ นะเราก็ยังอดขำไม่ได้ว่าเขาโกรธจริง หรือเขาโกรธเล่นในวันนั้นน่ะฮะ ยังรู้สึกในใจ ภาวนาในใจโอ้โห... นี่หรือวะ..." หม่ำ "ดูขาพี่ไหม ดูขาพี่ตอนนี่ลงไหมอ่ะ" เปิ้ล "ไม่ได้ดูครับ" หม่ำ "นั่นไง" เปิ้ล "ดูไม่ทันครับ แบบในใจมันภาวนาว่าพี่เขาต้องโกรธเราเล่นแน่ เขาจะต้องแบบ ค่อยแบบเฉลยมุขในตอนนั้นอะไรเงี้ย เพราะว่าศึกษานิสัยมา พี่เขามาแบบว่าเราเล่นหัวกันมาเยอะมาก ไปกินข้าว ไปเที่ยวด้วยกัน ไปอะไรด้วยกัน" หม่ำ "เที่ยวตรงไหนบอกด้วย ออกสื่อด้วย เดี๋ยวเมียพี่เข้าใจผิดว่าที่ผู้ชายไปเที่ยวกัน" เปิ้ล "ไม่ก็คือสนิท พี่เขาเอาง่ามท้งง่ามเท้ามาปาดปากเล่นกันแบบหนัก อยู่ในวงอาหารก็ด่ากันแบบกระจายอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพอไปเจอในวันนั้นเราก็ยังมีความรู้สึกว่าเออพี่เขาคงแกล้งโกรธเล่น แล้วเดี๋ยวก็เฉลยมาก็คงหาย ปรากฏว่าไม่หายเว๊ย! คือแบบว่าพี่ชายเอาจริง แต่ในใจก็ภาวนาไม่ดิ เพราะว่าเราศึกษา เพราะพี่หม่ำจริงๆ จิตใจเป็นคนน่ารักมาก เพราะฉะนั้นเขาไม่เคยโกรธใครน่ะ ชีวิตไม่เคยโกรธใคร จะมาโกรธเราเป็นไปไม่ได้ พอมันนาน พอเริ่มโกรธนานเราก็ เฮ้ย! เราเป็นคนแรกในชีวิตของเขาเปล่าวะ ที่เขาจะโกรธอะไรอย่างเนี้ย"

คิดว่าต้องซ่อมต้องแก้ขนาดไหน "หม่ำ" ถึงจะยอมให้ออกฉาย? เปิ้ล "ก็คือต้องตัดตามความเป็นจริงน่ะครับ ให้พี่หม่ำพิจารณาเอาเองดีกว่าว่า" หม่ำ "เผลอๆ ผมจะตัดเองเลยด้วย"

ถ้าไม่มีภาพ "หม่ำ" ตรงนั้นคือหนังฯเสียหาย? เปิ้ล "ก็เพราะมันลงทุนไปเยอะครับ แล้วก็ใช้เวลาที่คุณเป้เขาทำมาเป็นเดือนเลยเพื่อต้อนรับพี่หม่ำ" หม่ำ "ตลกก็เยอะแยะ ทำไมมาชอบพี่คนเดียววะ"

นอกจาก "หม่ำ" มีใครโดนลักษณะนี้อีกไหม? เปิ้ล "ก็เดี๋ยววันที่ 1 เดี๋ยวแจ้งให้ทราบอีกทีครับ"

ถือว่า "หม่ำ" โดนแกล้งเยอะที่สุดเลยไหม? เปิ้ล "ยังมีมากกว่านั้นอีก แต่เขาไม่เห็นเป็นแบบนี้...."

เหมือน "หม่ำ" จะงอน "เปิ้ล" มากกว่า "หอย"? หม่ำ "หอยมันยังน่ารักนะ น่ารักอันดับ 1 เลย เขารู้ตัวเขายังรีบโทร.มาเคลียร์ก่อนเลย แต่ทีนี้ผมว่าตัวการจะเป็นตัวนี้หนักกว่าเพื่อน"

เข็ดไหม? เปิ้ล "เข็ดครับๆๆๆๆ"

ความสัมพันธ์จะเหมือนเดิมกันไหม? เปิ้ล "ก็แล้วแต่พี่หม่ำ" หม่ำ "พี่บอกแล้วว่าพี่งอน ก็รู้อยู่แล้วเราเคียงบ่าเคียงไหล่กันมาทุกๆ ที่ ทุกๆ ทาง บอกผมก็ได้เดี๋ยวผมจะแอ็คให้" เปิ้ล "ถ้าบอกพี่ก็ลงรถ ถ้าบอกพี่ไม่ขึ้นแน่" หม่ำ "แล้วล็อคปุ๊บแน่นเลย แกะไม่ออกด้วย ก็โกรธสิ เอาแล้ว โดนแล้ว กัดฟันสู้เหมือนขึ้นไวกิ้งที่ดรีมเวิล์ด"

คนรับงานให้ หรือผู้จัดการฯรู้เรื่องไหม? หม่ำ "โอ๊ย! ข้อมูลนี่ ไอตัวนั้นก็หนักเหมือนกัน คนนั้นก็โดน "มึงไม่ถามข้อมูลเขาก่อนหรอ" ก็บอก "ถ่ายโฆษณาเฉยๆ คงไม่มีอะไรมั้ง" ก็ไปช่วยอยู่แล้วน่ะ"

ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับสาระแน? หม่ำ "ผมถามว่า ตอนที่ผมโดนไปแล้วเนี่ย ผมร่ายไปเยอะเลยจนขึ้นรถน่ะ "มึงไม่รู้หรอว่าเขาทำอะไร มึงไม่ถามข้อมูลเขาก่อนเลยหรอ" เขาก็บอกเฉยๆ ว่าถ่ายโฆษณาของกระทรวงสาธารณสุข ช่วยเหลือคนเมาไม่ขับ แค่นั้นเอง เราก็ไม่ได้เอาตังค์ เออไปช่วยพรรคพวกกัน ผมคงไม่อะไรกับเขาขนาดนั้น(ไม่ได้เอาผิด?) บางทีเขาขาดความรอบคอบด้วย บางทีเขารู้ว่าเป็นเพื่อนกันไง ไปไหนไปด้วยกันไง ไปตีกอล์ฟ ไปนั่งกินด้วยกันหัวทิ่มหัวตำไปด้วยกัน กินโน่นกินนี่ ไปเที่ยวไปด้วยกันไปทุกที่ แตะบอล ไปด้วยกันบ่อย มันไม่น่าทำกันแบบนี้ แต่มาถึงวันนี้แล้วก็คิดว่าไม่ได้โกรธแต่พี่งอนพี่ก็ดีขึ้นแล้ว แต่พี่ขอดูหนังก่อนนะ"

ต้องรีบกำหนดวันเอาหนังมาให้ "หม่ำ" ดู? เปิ้ล "เดี๋ยวเอามาให้เร็วที่สุด" หม่ำ "ไม่ว่าผมจะซ้อมของผมอยู่"

วันที่เท่าไหร่ ที่ไหน?(วิลลี่ช่วยส่งให้โปรโมท) หม่ำ "15 -16- 17 พ.ค. 5 รอบ ที่ธันเดอร์โดมเมืองทองธานี พี่วิลลี่เป็นคนดีตลอดเลย รู้จักส่งมาให้ตลอด"

จะมีการเลี้ยงใหญ่เพื่อขอโทษหรือเปล่า? หม่ำ "ต้องเลี้ยงใหญ่อยู่แล้วต้องตามใจผม ผมจะถล่มให้หนักเลย เตรียมเงินไว้แล้วกัน" เปิ้ล "ต้องอยู่ที่พี่อนุญาติหรือเปล่า ถ้าที่อนุญาติก็" หม่ำแทรก "ขอดูหนังก่อน ถ้าไม่ถูกใจพี่ขอตัดเอง อืมม...เดี๋ยวดูก่อน" เปิ้ล "อืมม.. ได้ครับ พี่ตัดพี่ตัดเมียพี่ไว้ในหนัง(ขำๆ)" หม่ำ "บ้าหรอ มันส่งเอาเรื่องเมียมาด้วย ผมขอนุญาติเมียแล้ว ผมบอกว่าก็ใช่มันอยากให้กูตายมั้ง ผมโมโหยั๊วจัดเลย"

ไปขอ "พี่มด"(ภรรยาหม่ำ) ด้วยหรอ?เปิ้ล "ผมไปคุยไว้หมดแล้ว คือเราต้องศึกษาข้อมูลหมดก่อน เพราะว่าเราต้องรอบคอบที่สุดก่อน คนที่รู้ใจพี่หม่ำมากที่สุดคือภรรยาของเขาเราก็ต้องปรึกษาแล้วขออนุญาติพี่เค้า พี่มดเค้าบอกเอาเลย"

แล้วเคลียร์กับคุณ "มด" ยังไง? หม่ำ "ไม่อยากคุยหรอก" วิลลี่ "แขกรับเชิญพิเศษมีใครบ้างครับพี่หม่ำ" หม่ำ "วิลลี่เป็นคนดีจริงๆ เลย ชอบวิลลี่จริงเลย ก็มีสามซ่า คุณเท่ง คุณโหน่ง แล้วก็มีแทททูคัลเลอร์ มีพี่เทพด้วย" วิลลี่ "แล้วมีเซอร์ไพรส์ไหมครับ มีใครที่ยังไม่ได้คาดหวัง" หม่ำ "อาจจะมีสาระแนเนี่ยแหละสามคน" เปิ้ล "โชว์นี่จะดูต้องไปขอตั๋วที่ไหน" หม่ำ "ไททิกเก็ตเมเจอร์ ไม่ได้ขอไปจอง"

บัตรราคาเท่าไหร่? หม่ำ "500 1,000 1,500 2000 ดีมากเลย คุณมาผมให้ไป 10 ใบเลย" เปิ้ล "เปิดจองบัตรเมื่อไหร" หม่ำ "มาสอบถามที่เวิร์คพ้อยท์ได้เลย วันที่ 15 -16 -17 พ.ค. ทั้งหมด 5 รอบ โอเค ถ้างั้นคงไม่มีอะไรหรอกครับ ผมบอกว่าผมงอน ทั้งนี้ทั้งนั้นที่ถามเมื่อกี้นี้ผมจะต้องไปขอดูหนังก่อน เผลอๆ ผมจะตัดเองด้วยเป็นช็อตของผมนะ" เปิ้ล " แต่อย่าที่พี่ด่าเมียตัวเองออก" หม่ำ "ครับ" เปิ้ล "เพราะมันเป็นเรื่องจริง"


ต้องไปรับคำยืนยัน "หม่ำ" ภายในวันไหน หนังถึงจะออกฉายได้ตามปกติ? เปิ้ล "ก็คิดเป้น่าว่าจะเอาให้ดูเร็วที่สุด เพราะเดี่ยววันที่ 1 เม.ย. หนังจะแถลง"

ฉายเมื่อไหร่? เปิ้ล "30 เม.ย."

หนังฯ "วงษ์คำเหลา"? หม่ำ "วงษ์คำเหลาครับเดือนมิถุนา ตัดต่อเสร็จแล้วเดือนมิถุนา" เปิ้ล "ถ้าพี่ไม่ให้หนังเรื่องนี้ออกเสี่ยเค้าบอกว่าเรื่องของพี่ทั้งหมดเค้าแคนเซิล" หม่ำ "เสี่ยไม่กล้ากับพี่หรอกน้อง"

หลังจากนี้จะมีการคุยส่วนตัวด้วยไหม? หม่ำ "ผมขอบอกว่าลักษณ์ 666 ต้องเตรียมตังค์ไว้เยอะๆ เลย ผมจะปิดสถานที่ที่มันคาดไม่ถึง ผมจะไปชวนหมู่บ้านผมไปกินทั้งหมู่บ้านเลย"

แล้วยังอยากจะเผาเจ็ทสกี "เปิ้ล" อยู่หรือเปล่า? หม่ำ "บอกตามตรงนะครับผมหาโอกาสนั้น แล้วจะทำให้ได้ครับ มันไม่เท่าไหร่เงินล้านกว่าบาทสองล้าน"

แล้วบ้าน "หอย"? หม่ำ "ผมจะเอาไฟไปเผาบ้านเค้า เอาไฟเผาแล้วเอาน้ำราดดิ" เปิ้ล "พี่แม่หอยเค้าหนีไม่ทัน" หม่ำ "แม่อยู่ในนั้นหรอ เออเปลี่ยนวิถีผู้สูงอายุได้รับความเดือนร้อนไม่เอา" เปิ้ล "วิลลี่เค้าก็ใช่ย่อย" หม่ำ "วิลลี่ให้อภัย วิลลี่เป็นคนดี" เปิ้ล "ไอ้นี่เอาตัวรอด"

ต๊ะ ขอโทษ เอมมี่ เรื่องว่าจุกดำ

ต๊ะ ขอโทษ เอมมี่ เรื่องว่าจุกดำ ปากคัน..เผลอไปเม้าท์สีหัวจุ๊ก เอมมี่-มรกต กิตติสาระ ทั้งๆที่สาวเจ้าเพิ่งผ่านเหตุการณ์จุกโผล่แสนฮือฮามาหยกๆ ต๊ะ-วริษฐ์ ทิพโกมุท ก็เลยถูก เอมมี่ ตอกกลับแบบเผ็ดร้อน จี้ให้รับผิดชอบสิ่งที่พูด แถมโดนกระหน่ำว่าเป็นผู้ชายไม่แมนเม้าท์ผู้หญิง ซึ่ง ต๊ะ รีบแก้ตัวว่า “ต้องบอกก่อนว่า ตอนแรกผมโทร.ไปคุยธรรมดาว่าเค้าโอเคนะ วันต่อมาก็ไปงานครอบครูช่อง 3 ผมก็เป็นห่วงเค้าก็อยากให้กำลังใจ ไม่ได้สร้างกระแสอะไร มันเป็นอุบัติเหตุก็จบไป แล้วก็มีพี่ๆแซวว่าเอมมี่เค้าอยากให้รีทัชจุกเป็นสีชมพู แซวกัน ผมเลยไม่คิดอะไร เพราะมันเป็นเรื่องหลังไมค์ แต่ตอนนี้ผมดูไม่ดีเลย ซีเรียสมาก” ถูกหาว่าไม่แมน? “ใช่ครับ ถูกมองแบบนั้น แต่มันเป็นการทวนคำถามของผม พี่เขาบอกว่าไปทำสีมาดำด้วยนะ ผมก็บอกว่าดำด้วยเหรอ กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โต นี่ผมก็จะโทร.ไปหาเอมมี่บอกว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้นะ ไม่อยากให้ทุกคนเข้าใจผิด เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน เขาเป็นคนตลกชอบอำ เราก็อำกลับ” เอมมี่ฉุนบอกว่าจุกดำก็ไม่ได้เปิดให้ใครดู? “ถ้าเขาเข้าใจผิดก็ฝากขอโทษน้องมี่ด้วย ผมขอโทษ ขอโทษจริงๆ อาจจะสื่อสารผิด แต่ผมเครียดมาก ต่อไปนี้ถ้าปิดไมค์ผมก็ต้องมีสมาธิต่อไป มันแค่แว้บเดียวจริงๆ ไม่ได้เจตนา ไม่รู้ว่าจะเป็นเรื่องขนาดนี้” เอมมี่อยากให้รับผิดชอบสิ่งที่พูด? “ครับ ตรงนี้ผมรู้สึกแย่” กลัวเข้าหน้าเอมมี่ไม่ติดมั้ย? “ไม่ครับ เราเป็นเพื่อนที่ดี คุยกันประจำอยู่แล้ว”.

ขวัญ แหกตา ให้พี่สาวโฟนอินเป็นตัวเอง

ขวัญ แหกตา ให้พี่สาวโฟนอินเป็นตัวเอง เข้ารายการ ของคลื่น “94 EFM” เคลียร์ข่าวเกาเหลาเพื่อนดารา ทีมงานจำเสียงได้ว่าไม่ใช่ ถามกลับไม่สบายหรือเปล่า ถึงกับตัดสายทิ้ง ก่อนจะโทร.กลับมาแก้ต่าง อ้าง นอนหลับพี่เลยรับแทน ยันไม่รู้เรื่อง ด้านทีมงานเผย แฟนรายการแมสเสจเข้ามาด่าเละ ซัดแหกตาคนฟัง ที่ผ่านมาตกเป็นข่าวกระฉ่อนรายวัน จนได้รับฉายา "ทิงเจอร์เบอรี่" จากสมาคมนักข่าวบันเทิง สำหรับนางเอก "ขวัญ อุษามณี ไวยทยานนท์" ทั้งมีข่าวพัวพันกับหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากหน้าหลายตา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ข่าวเปิดศึกเกาเหลากับคนโน้นคนนี้ ไล่ไปตั้งแต่ บี มาติกา, ปู ไปรยา, แพนเค้ก เขมนิจ, นักแสดงรุ่นพี่ ปู มัณฑนา แล้วไหนจะกับสาว "พลอย เฌอมาลย์" กรณีที่แม่สาวขวัญโทร.ไปหาแม่สาวพลอย เพื่อสอบถามเรื่องของนักร้องหนุ่ม "กอล์ฟ พิชญะ" กิ๊กเก่าของลูกสาว แต่กลับออกมาให้ข่าวว่าแค่โทร.ไปถามเรื่องแฟชั่นเฉยๆ งานนี้ทำเอาสาวพลอยแท็กทีมแม่ออกมาแฉกลับว่า แม่ขวัญพูดไม่จริง พร้อมจวกกลับเจ็บแสบว่า อย่ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัว แถมยังมีการดึงสาว "ชมพู่ อารยา" มาเกี่ยวข้อง โดยแม่สาวขวัญอ้างว่า สาวชมพู่เป็นคนปล่อยข่าวสาวขวัญร้องไห้ ร้อนถึงสาวชมพู่ต้องออกมายืนยันความบริสุทธิ์ของตนเองแบบเซ็งๆ ที่จู่ๆ ก็ต้องมาตกเป็นแพะ ทั้งที่ไม่ได้รู้เรื่องอะไรด้วย เหตุการณ์ดังกล่าว ก็เลยทำให้สาวขวัญและแม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆ นาๆ ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันนี้(24 มี.ค.) ก็ตกเป็นข่าวใหญ่อีกครั้ง เมื่อสองดีเจจากคลื่น 94 EFM ในเครือเอไทม์ อย่าง "เป้ วิศวะ กิจตันขจร" และ "เชาเชา ชวลิต ศรีมั่นคงธรรม" ได้โฟนอินขอสัมภาษณ์สาวขวัญ เพื่อสอบถามข่าวคราวที่เจ้าตัวเปิดศึกยกใหม่กับสาว "ส้ม ณัฐวรา หงส์สุวรรณ" พิธีกรรายการ "ดิสนีย์คลับ" ทางช่อง 7 สี หลังทั้งคู่ได้ร่วมงานกันในละครเรื่อง "มือนาง" ที่สาวขวัญแสดงนำ ส่วนสาวส้มเป็นนางร้าย จนมีกระแสข่าวออกมาว่า ทั้งคู่เกิดทะเลาะกันกลางกองถ่าย ถึงขั้นลงไม้ลงมือตบตีกัน โดยทางทีมงานรายการได้มีการติดต่อผ่านทางคุณแม่ของสาวขวัญ ซึ่งพอถึงเวลาออกอากาศพิธีกรก็ได้มีการสอบถามถึงข่าวคราวที่เกิดขึ้น และปลายสายที่เรียกตัวเองว่าขวัญทุกคำ ก็ได้ตอบทุกคำถามอย่างครบถ้วน โดยที่ไม่มีใครเคลือบแครงใดๆ กระทั่งมีคนโทร.เข้าไปแจ้งกับทีมงานว่า เสียงปลายสายไม่ใช่สาวขวัญ พร้อมกับยืนยันว่าจำเสียงได้ สองดีเจจึงแกล้งถามกลับไปว่า ขวัญไม่สบายอยู่หรือเปล่า ทำไมเสียงแปลกๆ? ซึ่งเจ้าตัวก็ตอบกลับมาว่า ใช่ ไม่ค่อยสบาย แล้วจู่ๆ สายก็ถูกตัดไป และเบอร์โทรศัพท์นั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก กระทั่งสุดท้ายความมาแตก เนื่องจากสาวขวัญเป็นคนโทร.กลับมาด้วยตัวเอง พร้อมกับสารภาพว่า ผู้หญิงที่รับสายไม่ใช่ตน ก่อนอ้าง นอนป่วยอยู่จึงไม่สามารถลุกขึ้นมารับสายได้ แต่ไม่ทราบเรื่องที่มีคนมารับแทน พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้จงใจให้เกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นเลยแม้แต่น้อย ทำเอาทีมงานรายการมึนไปตามๆ กัน อย่างไรก็ตาม ได้รับการเปิดเผยจากทีมรายการด้วยว่า ในขณะที่มีการโฟนอิน แฟนรายการแมสเสจเข้ามาด่าเยอะมาก เนื่องจากส่วนใหญ่จำได้ว่าไม่ใช่เสียงของนางเอกสาว แถมยังต่อว่าทีมงานแหกตาคนฟังหรือเปล่า? แต่พอหลังจากสาวขวัญมาเฉลยทุกอย่างด้วยตัวเอง ทุกคนจึงเข้าใจ และส่งข้อความเข้ามาขอโทษขอโพยที่เข้าใจรายการผิด

Tuesday, March 24, 2009

ลือหึ่ง อ๊อฟ ชนะพล ลืมกำพืด

ลือหึ่ง อ๊อฟ ชนะพล ลืมกำพืด งานเข้าอีกรายสำหรับพระเอกหน้าใหม่ที่กำลังไปได้สวย สำหรับหนุ่มอ๊อฟ ชนะพล สัตยา แต่ไม่วายมีข่าวเมาธ์มาว่าหนุ่มอ๊อฟนั้น เป็นพระเอกได้ไม่ทันไรก็ลืมกำพืดถึงขั้นไม่กล้าพูดสำเนียงใต้เสียแล้ว
ซึ่งกลายเป็นเรื่องเมาธ์กระฉ่อนแดนใต้ว่า ในงานอีเวนท์งานหนึ่งที่จัดขึ้นที่ใต้ได้มีการเชิญพระเอกหนุ่มคนนี้ไปร่วมงานด้วย ในฐานะที่ก็เป็นพี่น้องคนใต้คนหนึ่ง แต่ภายในงานนั้นปรากฏว่าหนุ่มอ๊อฟพูดสำเนียงกรุงเทพตลอดงาน เลยทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า หนุ่มอ๊อฟกลายเป็นพระเอกลืมกำพืดไปเสียแล้ว เพราะไม่ยอมพูดสำเนียงใต้เนื่องจากกระดากที่จะพูดเลยทีเดียว
งานนี้ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "ผมเป็นคนใต้อยู่แล้ว ไม่เคยว่าไปที่บ้านแล้วไม่พูดใต้แต่มันอาจจะเหน่อหน่อย เพราะเรามาอยู่กรุงเทพเราก็พูดภาษากลาง เราต้องใช้เวลาในการปรับตัวนิดนึง มันเพี้ยน บางครั้งเราพูดเพี้ยนไปแล้วอายเขาทั้งที่เราเป็นคนใต้จริง ๆ ใช่ว่าผมไม่ยอมพูดนะ ผมก็พูด จริง ๆ แล้วเวลาอยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ก็พูดภาษากลางอยู่แล้ว แต่กับเพื่อน ๆ พูดภาษาใต้ เราไม่อยากให้เพื่อนว่าเรากระแดะ"

ซึ่งหนุ่มอ๊อฟยืนยันว่า เจ้าตัวนั้นภูมิใจที่เป็นคนใต้ แล้วมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เพราะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครจะเข้ามาก็ได้ ย้ำไม่มีใครจะลืมถิ่นกำเนิดได้หรอก ก็ยังพูดได้เหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยเท่านั้น และแม้ว่าตัวเขาจะย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเขาก็ไม่ได้ลืมว่าพื้นเพแล้วเขาเป็นที่ไหน อย่างแน่นอน
สุดท้ายหนุ่มอ๊อฟได้แหล่งใต้อ้อนแฟน ๆ ว่า "อยากให้คนใต้ทุกคน การที่ผมกลับไปที่บ้านแล้วไม่พูดใต้ มันไม่จริงเลยครับ บางครั้งที่อ๊อฟอาจจะอายอาจจะเขิน เพราะอ๊อฟอยู่กรุงเทพหลายปีเหมือนกัน ก็เลยอาจจะเพี้ยน ก็อยากจะให้เข้าใจตรงนี้ด้วยครับ"

ขวัญ แหกตากลางอากาศ

ขวัญ แหกตากลางอากาศ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องไฟลามทุ่งไปอีกรายสำหรับนางเอกหน้าหวาน "ขวัญ อุษมณี ไวทยานนท์" สำหรับกรณีล่าสุดที่มีข่าวว่าเปิดศึก "ตบคากองถ่าย" กับเพื่อนนักแสดง "ส้ม ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ"
สำหรับข่าวนี้เรียกว่ายังไม่เคลียร์สักเท่าไหร่เลยเพราะบางกระแสก็ว่าเป็นการสร้างกระแสมากกว่า ในขณะที่อีกฝ่ายก็ว่าทั้งสองคนมีเรื่องตบตีกันจริง ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็งานเข้าเสียอย่างนั้น เพราะเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) เกิดรายการ "แหกตาประชาชน" ออกอากาศกลางรายการ "ฟังหูไว้หู" ของคลื่น EFM เพราะสาวขวัญปล่อยให้พี่สาวมาสมอ้างเป็นตัวเองแล้วให้สัมภาษณ์แทน
ซึ่งทางรายการได้มีการติดต่อขอสัมภาษณ์สาวขวัญ อุษามณี เพื่อสอบถามถึงกรณีที่เป็นข่าวกับเพื่อนนักแสดงที่ว่ามีการทะเลาะตบตีกันจริงหรือไม่ทั้งนี้ทางทีมงานได้มีการติดต่อล่วงหน้ากับทางคุณแม่ของสาวขวัญไปแล้ว เมื่อถึงเวลาก็มีการสัมภาษณ์กันตามปกติ จนเมื่อจู่ ๆ ทางทีมงานได้รับการแจ้งว่าผู้ที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้นไม่ใช่ขวัญ เพราะน้ำเสียงไม่ใช่ ทำให้ผู้ดำเนินรายการถามกลับสาวขวัญไปว่า "ไม่สบายหรือเปล่า เสียงดูแปลก ๆ ไป" ซึ่งปลายสายตอบกลับมาว่า "ใช่" ก่อนที่จะสายหลุดไปและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ต่อมาดาราสาวขวัญ อุษามณี ได้ติดต่อกลับมาทางรายการพร้อมกับสารภาพว่า เมื่อสักครู่ที่มีการให้สัมภาษณ์นั้นไม่ใช่เจ้าตัว เนื่องจากเจ้าตัวไม่สบาย ไม่สามารถรับสายได้ ทั้งนี้สาวขวัญได้กล่าวว่าสำหรับเรื่องการให้สัมภาษณ์แทนนั้นเจ้าตัวอ้างไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ตั้งใจให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น
ฟากทีมงานของทางสถานีวิทยุ "EFM" กล่าวว่านอกจากจะมีแฟนรายการโทรมาแจ้งความจริงแล้ว เมื่อวานนี้ได้เกิดกระแส "เอสเอ็มเอสกระจาย" เพราะมีแฟนรายการหลายร้อยคนจำน้ำเสียงได้ว่าไม่ใช่สาวขวัญตัวจริง ได้ส่งเอสเอ็มเอสเข้ามาต่อว่าหาว่าแหกตาคนฟัง

ต๊ะ ถูกด่าไม่แมนแซว

ต๊ะ ถูกด่าไม่แมนแซว "เอมมี่" หัวนมดำ ต๊ะ-วริษฐ์ รีบโร่ขอโทษฝ่ายหญิง แจงเป็นการทวนคำถามสื่อหลังไมค์ เปล่ามีเจตนาพูดว่าดาราสาว รับรู้สึกแย่และเครียดกับข่าวที่ออกมาจนผวากลัวการให้สัมภาษณ์ ลั่นต่อไปจะมีสมาธิคิดก่อนพูดมากกว่าเดิม

เกี่ยวกับกรณีที่ดาราหนุ่ม ต๊ะ-วริษฐ์ ไปพูดแซว เอมมี่-มรกต ว่าหัวนมดำ หลังฝ่ายหญิงเผลอทำจุกโผล่และให้สัมภาษณ์วอนสื่อแบบขำๆ ว่า หากจะรีทัชสติ๊กเกอร์ออกขอให้ทำหัวนมเป็นสีชมพู กระทั่งเจ้าตัวได้ยินคำพูดของฝ่ายชายเลยพูดเหน็บกลับว่า หัวนมจะสีอะไรก็ช่างเพราะไม่ได้เปิดให้ใครดูนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าต๊ะ-วริษฐ์ อีกรอบเลยเข้าไปสอบถามความรู้สึกที่ถูกเอมมี่พูดตอกกลับมา ดาราหนุ่มได้ขอแก้ต่างให้ตัวเองว่า

"ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกเราโทรไปคุยธรรมดาว่าโอเค.นะ เสร็จแล้วก็วางสายไป อีกวันก็เกิดเรื่อง วันงานครอบครูช่อง 3เราเป็นห่วงเขาเลยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นกำลังใจให้ คิดว่าเอมมี่ไม่ได้สร้างกระแสแต่คงเป็นอุบัติเหตุ มันก็จบไปแล้วก็มีพี่ๆ พูดแซวขึ้นมาว่า เอมมี่ไปทำชมพูมานะ เราก็....ดำด้วยเหรอครับ พูดไปไม่ได้คิดอะไรเพราะมันเป็นหลังไมค์ด้วย แต่เขากดเทปไปแล้ว พอเราพูดอย่างนี้มันเลยกลายเป็นเราดูไม่ดีไปเลย เราซีเรียสมากเพราะเขาเป็นผู้หญิง เราถูกมองว่าไม่แมนไม่ให้เกียรติเขา ซึ่งจุดประสงค์เราจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น สิ่งที่ออกมาเหมือนกับเป็นการทวนคำถามของผมว่า เฮ้ย....ไปทำสีมานะ ดำด้วยนะ เราก็ดำด้วยเหรอ มันเลยกลายเป็นไปกันใหญ่ โห...ตอนนี้หน้าหน้ามืดมากงงเลย"

"ผมรู้สึกแย่นะ เหมือนเราทำงานจบแล้วตรงนั้นแต่ยังมีเรื่องต่อไปอีก มันก็กังวลใจ ต่อไปนี้เวลาสัมภาษณ์เราก็กลัวเหมือนกัน กลัวจะพูดอะไรไปอีก ก็ถ้าเอมมี่เข้าใจผิดอย่างนั้นก็ฝากขอโทษน้องมี่ด้วยละกัน แต่เรื่องราวจริงๆ ก็อย่างที่เข้าใจกันว่ามันคืออะไร ไม่ใช่อยู่ๆ ผมจะไปบอกว่าเขาเป็นอย่างนี้ ผมต้องขอโทษเขาที่สื่อสารกันผิด ด้วยข่าวที่ออกไปอาจทำให้เขาดูไม่ดี ผมเครียดมากไม่อยากให้ออกมาเป็นอย่างนี้เลย"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหลังเกิดเรื่องได้โทรไปพูดคุยกับเจ้าตัว เพื่อชี้แจงความจริงบ้างหรือยัง พระเอกหนุ่มส่ายหน้ากล่าวว่า

"คือตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไร จนพี่นักข่าวเอามาให้ดูรูปว่ามีแบบนี้ เราดูโห....เป็นอย่างนี้เลยเหรอ พอสัมภาษณ์ผมก็บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เราเป็นห่วงเขานะ อีกแป๊บหนึ่งผมก็โทรหาเขา แต่เขาคงถ่ายละครอยู่เลยไม่ได้รับ พอจบไปอีกวันกลายเป็นเรื่องหนักกว่าเดิมอีก กลายเป็นไปว่าเขาอีก ทั้งที่เราเป็นห่วงเขามาก แต่เดี๋ยวผมคงต้องโทรไปหาเขาบอกว่าเรื่องราวความจริงมันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด เราเป็นเพื่อนสนิทที่ดีต่อกัน เขาเป็นคนตลกด้วย เขาชอบอำอะไรแบบนี้มา เราก็อำกลับ พอเห็นเขาซีเรียสก็ไม่อยากทำให้เขาเครียดมากขึ้น อยากให้เขาขำสนุกมากกว่า (กลัวเข้าหน้าเอมมี่ไม่ติดหรือเปล่า?) ไม่หรอก เราก็คุยกันประจำเรื่อยๆ ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว ผมก็ยังไม่รู้ว่าโทรไปเขาจะรับสายหรือเปล่า ถ้าเขาติดงานคงไม่รับ ถ้าว่างคงโอเค.มั้งครับ"

ได้บทเรียนอะไรจากการพูดครั้งนี้? "เมื่อไหร่ที่ปิดไมค์และกดเทปแล้วเราต้องมีสมาธิต่อไป โดยที่ไม่ต้องฟังอะไรแล้ว (หัวเราะ) มันแว่บเดียวจริงๆ ที่เขาพูดขึ้นมา เราก็ทวนคำถามกลับไปว่ามันเป็นอย่างนี้เหรอ ผมไม่ได้เจตนาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอย่างนี้ได้ยังไง"

Monday, March 23, 2009

ชัญญ่า ทามาดะ ถูกเพื่อนแบน

ชัญญ่า ทามาดะ ถูกเพื่อนแบน เปิดศึก ปะทะคารม กับ คาสโนวาบ้าของแพง อย่าง ''ฟลุค'' เกริกพล มัสยวาณิช ไปเมื่อครั้งก่อน ก็เล่นเอาลูกครึ่งสาวไอโซ "ชัญญ่า ทามาดะ" เจ็บหนัก งดเอ่ยชื่อผู้ชายคนดังกล่าวเลยทีเดียวเชียวแหละ ด้วยเพราะเจอกระแสวิพากษ์วิจารณ์รุมกระหน่ำ ว่าเกาะแข้งเกาะขาพ่อหนุ่มคนดังเพราะอยากมีชื่อเสียง ทำเอาสาวชัญญ่าถึงกับกลัดกลุ้ม ไปไม่น้อย..แต่เรียกว่าผลตอบรับกับการเป็นข่าวฉาวครั้งนี้นั้น ทำให้เจ้าตัวเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ภายในเวลาเพียงไม่นานเลยก็ว่าได้ ทั้งยังมีงานติดต่อเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย

แต่ถึงจะดังจนไปไหน ก็มีใครต่อใครรู้จัก แต่ชื่อเสียงที่แลกมาด้วยความฉาวก็ทำเอาเจ้าตัวถึงกับเครียด เพราะตอนนี้ไม่อยากมีใครคบค้าสมาคมด้วยซะแล้ว ซึ่งล่าสุดเจอเจ้าตัวเข้า เข้าไปอัพเดทสภาพจิตใจกันหน่อย!! ตอนนี้สภาพจิตใจเป็นอย่างไรบ้าง??"ก็โอเคไม่อะไรมาก ไม่เก็บมาคิด ตอนนี้ทำใจได้แล้ว จบแล้ว ต่างคนต่างอยู่ แรกๆก็เครียดนั่นแหละ แต่ตอนนี้ไม่แล้วล่ะ ไม่รู้จะเครียดไปเพื่ออะไร เรากำหนดอะไรไม่ได้เลย"ครอบครัว ..ว่าไง??"ก็เข้าใจค่ะ..ตอนแรกก็ซีเรียสแหละ แต่ก็เป็นกำลังใจสำคัญเลย"กับเพื่อนชายคนสนิทอย่าง ''วิน'' ไรท์วิน จิรพลเศรษฐ์ ล่ะ??"พี่เค้าไม่ใช่แฟนนะ แค่สนิทกัน เรื่องความรักเรื่อยๆ ก่อน ยังเด็กอยู่ ไม่รีบช้าๆ ใจเย็น"เห็นวินอยู่เคียงข้างตลอด??" พี่เค้าดูแลชัญญ่าดีมาโดยตลอด คอยให้กำลังใจ คอยปลอบ ดีค่ะ ดี"


แล้วหนุ่มๆล่ะ มีเข้ามาอีกมั้ย??" ฉาวซะขนาดนี้แล้ว ไม่มีแล้วมั้ง มีแต่ข่าวแบบนี้ใครที่ไหนจะกล้าเข้ามา อย่าว่าแต่ผู้ชายเลย เพื่อนผู้หญิงชัญญ่าเค้ายังไม่กล้ายุ่งเลย กลัวติดร่างแหไปด้วย "แสดงว่าเจอมาหนัก??"มีสองทางให้เราเลือก แคร์กับไม่แคร์ เราบอกคนทั้งโลกให้เชื่อเราไม่ได้..ใครไม่เชื่อก็ไม่บังคับค่ะ"ตอนนี้เป็นที่รู้จักขึ้นมั้ย??"เมื่อก่อนไม่มีใครรู้จัก ตอนนี้พอมาเป็นข่าวคนก็มองไปทุกอย่าง เมื่อก่อนหนูก็รับงานอยู่แล้ว เพียงแต่ไม่มีใครสนใจ"ได้ข่าวว่า..มีงานติดต่อเค้ามาเยอะมาก แต่ชัญญ่าปฏิเสธไปเพราะ ไม่อยากเกาะกระแสใครบางคนดัง??"ก็มีติดต่อเข้ามา หนัง ละคร อีเวนต์ ก็มีมาเรื่อยๆ แต่ช่วงนี้ขอพักไปก่อนดีกว่าค่ะ ไม่อยากให้มันไปตามกระแสข่าว เดี๋ยวคนจะคิดว่าอยากไปเกาะใครเค้าดัง อยากอยู่แบบนี้ไปก่อน ให้อะไรๆ นิ่งไปก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกทีดีกว่าค่ะ" สาวชัญญ่ากล่าวพร้อมรอยยิ้ม

หมอกฤษณ์ ขู่! "ลิเดีย" ไม่โผล่ อาจเจอหมายศาล

หมอกฤษณ์ ขู่! "ลิเดีย" ไม่โผล่ อาจเจอหมายศาล ชวดไกล่เกลี่ย "ลิเดีย" ในคดีฟ้องกลับข้อหาหมิ่น "หมอกฤษณ์" เซ็ง! คู่กรณียังไม่โผล่ ศาลแจงฝ่ายนักร้องสาวยังไม่ได้รับสำเนาคำฟ้อง ด้านหมอคอนเฟิร์ม ขู่! หากครั้งหน้ายังไม่มามีสิทธิ์เจอหมายศาลแน่!!!

วันนี้(23 มี.ค.) โดยเวลาประมาณ 15.00 น. หมอดูจอมคอมเฟิร์มชื่อดัง "กฤษณ์" หรือ "นายศุภฤษฏ์ ปทุมศรีวิโรจน์" ได้เดินทางมายังศาลอาญารัชดา พร้อมกับทนายส่วนตัว "นายสาคร ศิริชัย" และครอบครัว ตามที่ทางศาลได้มีการนัดไกล่เกลี่ยในคดีหมิ่นประมาท ด้วยการโฆษณา ซึ่งทาง "หมอกฤษณ์" เป็นฝ่ายยื่นฟ้องทางด้านนักร้องสาว "ลิเดีย - ศรัณย์รัชต์ วิสุทธิธาดา" กับแฟนหนุ่ม "แมทธิว ดีน" แต่ปรากฏว่าในวันนี้ก็ยังคงไร้เงาของทั้งคู่ ซึ่งทางศาลได้มีหนังสือชี้แจงออกมาว่าทางฝ่าย "ลิเดีย" ยังไม่ได้รับสำเนาคำฟ้องในคดีนี้นั่นเอง อย่างไรก็ตามสาลได้นัดให้มีการไกล่เกลี่ยกันอีกครั้งในวันที่ 30 มี.ค.นี้ ส่วนในคดีแพ่งที่ "หมอกฤษณ์" ยื่นฟ้องกลับ "นางศันสนีย์ วิสุทธิธาดา" คุณแม่ของนักร้องสาว "ลิเดีย" นั้น ทางศาลได้นัดไกล่เกลี่ยเช่นกันในวันที่ 18 พ.ค.นี้ สำหรับในวันนี้ทาง "หมอกฤษณ์" และทนายส่วนตัว ได้ชี้แจงรายละเอียดให้ฟังดังนี้

ความคืบหน้าวันนี้?
กฤษณ์ "ครับ ก็วันนี้ผมก็มาน่ะครับ แต่ว่าทางฝั่งน้องเขาก็ยังไม่มาเหมือนเดิม อันนี้ผมฟ้องครับ ฟ้องน้องลิเดีย กับคุณแมทธิวครับ ในข้อหาหมิ่นประมาทในการโฆษณาครับ แล้วก็มีแพ่งด้วยครับ"

นัดไกล่เกลี่ยครั้งที่เท่าไหร่?
กฤษณ์ "ถ้าเกิดเป็นคดีที่ผมฟ้องก็ครั้งแรกครับ แต่ทั้งหมดก็ครั้งที่ 4 ครั้งที่ 5"

รู้สึกยังไงฝ่ายนู้นเขาไม่มาอีกแล้ว?
กฤษณ์ "สำหรับผม ผมไม่รู้สึกอะไรเลยครับ ก็คือมันเหมือนกับว่าศาลนัดเนี่ยผมก็มานะครับ เพราะว่าผมให้เกียรติศาล แล้วก็อย่างน้อยเนี่ยผมเป็นฝ่ายยื่นฟ้องผมก็โอเคผมก็จบ ผมก็ให้เกียรติในการที่มา ก็คือจริงๆ แล้วอย่างที่บอกนะครับ พูดทุกครั้งว่าถ้าเกิดเราเป็นคนไทย ถ้าเกิดมีโอกาสคุยกันมันก็อาจจะมีโอกาสที่ดีขึ้น"

ทางศาลว่าไง?
ทนาย "เรื่องรายละเอียดในคดีวันนี้หมอกฤษณ์มาศาลในฐานะที่ได้รับหนังสือทางศาลอาญาในคดีที่เราฟ้องไปซึ่งศาลนัดวันนี้บ่าย 3 โมง ซึ่งผลไปไกล่เกลี่ยในวันนี้เนี่ย ศาลแจ้งให้ทราบว่าทางฝ่ายคุณลิเดียเอง ได้รับหนังสือเช่นเดียวกับทางผมแล้ว แต่สาเหตุที่ทางคุณลิเดียยังไม่ได้มาเพราะยังไม่ได้รับหมายเรียก และสำเนาคำฟ้องที่ถูกฟ้องในคดีนี้ไป ยังส่งหมายไม่ได้ จึงไม่รู้รายละเอียดที่จะมาคุย แต่เขาก็ยังไม่ได้ปฏิเสธว่าจะมาหรือไม่ ฉะนั้นจึงเป็นหน้าที่ของศูนย์ประนอมข้อพิพาทจะประสานไปยังทางคุณลิเดียโดยตรง ให้มาเจรจาตกลงกันที่ศาลในวันที่ 30 เดือนนี้เวลา 13.30 นาฬิกา ซึ่งยังไม่แน่ว่าทางฝ่ายเขาจะมาหรือไม่นะครับ แต่ว่าให้ทราบว่าคดีนี้จะมีนัดประนอม ซึ่งศาลเองเนี่ยก็มีความประสงค์จะให้ทั้งคู่ ซึ่งเป็นคดีที่ฟ้องกันเองเนี่ยมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน แล้วก็ทางเราก็แสดงเจตนาว่ามีความประสงค์จะให้ศาลไกล่เกลี่ยให้ ข้อพิพาทนะครับ ให้มันจบลงด้วยดีทั้งสองฝั่งนะครับ"

"ทางเราประสงค์จะไปนะครับ ขอกราบเรียนผ่านสื่อนะครับว่าถ้าประสงค์ที่จะเจรจาตกลงกันก็มาในวันนัด วันที่ 30 มีนาคม คือผมขอชี้แจงอย่างนี้ว่า ศาลท่านก็เปิดโอกาสนะครับที่จะให้ฝ่ายจำเลยมาตรวจสำเนาคำฟ้อง ถึงแม้จะยังไม่ได้รับหมาย แต่ในรายงานขบวนพิจารณา ประนอมเนี่ยก็ให้มาตรวจสำเนาคำฟ้องได้ เพื่อจะได้ทราบล่วงหน้าว่ามีการฟ้องกันอย่างไร โดยที่ว่ายังไม่ต้องรับสำเนาคำฟ้องครับ มาติดตามวันที่ 30 มีนาคมครับ วันนี้เขาไม่มีใครมาเลยครับ ฝ่ายเราเนี่ยมา ประกอบด้วยหมอกฤษณ์, ผู้รับมอบอำนาจโจทย์ ตัวทนายโจทย์ แล้วก็คุณพ่อคุณแม่ แล้วก็คุณป้า"

ยังมีความประสงค์ที่จะประณีประนอม?
ทนาย "คืออันนี้เป็นหน้าที่ของศาล แล้วมีหนังสือเชิญมา ต้องมาให้ความร่วมมือกับศูนย์ประนอมข้อพิพาท"
กฤษณ์ "ก็คือว่าศาลท่านเป็นคนนัดครับ ไม่ใช่ว่าผมเป็นคนขอไกล่เกลี่ย"

แต่ครั้งนี้ "ลิเดีย" ก็ยังไม่มาอีกแล้ว?
กฤษณ์ "คืออย่างนี้ครับ ตอนนั้นเนี่ยเผอิญมันมีข่าวออกมาว่าศาลยกฟ้องหมดทุกคดีนะครับ ก็คือว่าถ้าเกิดว่าในวันที่มีการไต่สวนถ้าเกิดไม่มา แล้วศาลนัดก็ไม่มาๆ เนี่ย คือเดี๋ยวศาลเขาก็จะออกหมายเท่านั้นเอง"

ยืนยันว่าพร้อมที่จะไกล่เกลี่ย?
กฤษณ์ "ครับ ใช่ครับ"
ทนาย "คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความกันได้"

อยากจะพูดอะไรกับ "ลิเดีย"?
กฤษณ์ "คือ จริงๆ ผมก็อย่างที่บอกน่ะครับ โอเคถ้าเกิดเราคิดว่ามันมีโอกาสที่จะมีทางออกด้วยกันได้เนี่ย เราก็มาพบกันมาคุยกันก็ได้ เพราะอันนี้คือไม่ใช่ทางผมเป็นคนนัดครับ คือทางศาลเป็นคนนัด อันนี้คือเน้นย้ำว่าผมไม่ได้เป็นคนขอไกล่เกลี่ยนะครับ แต่ศาลเป็นคนที่นัดทั้งผมทั้งน้องเขาว่าควรจะมาเจอกันในวันนี้นะครับ"
ทนาย "เรื่องนี้เนี่ยเจ้าหน้าที่ประนอมข้อพิพาททางศาลอาญาจะติดต่อไปยังคุณลิเดียโดยตรงครับ ให้มาเจรจาหาทางออกร่วมกันครับ"

ยุ้ย'โดนคดี'มือที่สาม

ยุ้ย'โดนคดี'มือที่สาม พอเลิกกับ ปิ๊ด บอดี้สแลม ก็เลยพยายามหาสาเหตุว่าเพราะอะไร จน ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม มาตกเป็นข่าวกับนักแสดงหนุ่ม ธันญ์-ธนากร หลังจากที่ร่วมงานกันในเรื่อง “ปอบผีฟ้า” ทางช่อง 7 แถมล่าสุดยังควงคู่กันออกงานโทรทัศน์ทองคำอีก จนมีข่าวว่าดาราสาว ต้อง-สุภัชญา อดีตแฟนสาวของ ธันญ์ โวยว่า ยุ้ย เป็น “มือที่สาม” ทำให้เขาสองคนเลิกกัน มาเจอ ยุ้ย ในวันที่มาร่วมงาน “โรดโชว์ sms ไทยรัฐ ท็อป นิวส์” เลยได้มีโอกาสสัมภาษณ์ แบบเอ็กคูซีฟถึงข้อหา “มือที่สาม” ซึ่ง ยุ้ย ตอบว่า “ไม่เกี่ยวเลย ยุ้ยบอกได้เลยว่าไม่ใช่มือที่สามกับธันญ์ เราเป็นเพื่อนกัน เราสนิทกันในฐานะเพื่อนคนนึง มีผู้จัดการคนเดียวกัน ออกงานด้วยกัน ทำงานด้วยกัน ไม่มีอะไรอยู่แล้ว” ธันญ์มีมาปรึกษายุ้ยเรื่องความรักมั้ย? “ไม่ค่ะ เรื่องส่วนตัวเราก็จะไม่มาเล่าหรือมาพูดคุยอะไรกัน” ยุ้ยรู้จักกับต้องมั้ย? “ไม่รู้จักค่ะ แต่ยุ้ยรู้จักธันญ์จากที่ธันญ์เป็นเพื่อนสนิทพี่อานัส อยู่ในสังกัดเดียวกัน แล้วเราก็ได้มาร่วมงานกัน” เคยเจอต้องมั้ย? “เคยเจอครั้งนึงวันที่พวกเราไปฉลองกันที่ร้านธันญ์ ธันญ์ก็พาต้องมาแนะนำให้รู้จัก” ซีเรียสมั้ยที่ถูกมองว่าเป็นมือที่สามทำให้เค้าเลิกกัน? “เค้าไม่ได้เลิกกันนี่ ไม่ซีเรียส เพราะตอนนี้อยู่ใกล้ใคร คนก็จะดูไม่ดี เราคงต้องระวังตัวเอง” แต่เค้าก็ห่างกัน? “อันนั้นมันคงเป็นที่ตัวเค้าสองคนแล้วล่ะ เพราะยุ้ยไม่เคยไปทำให้เค้าทะเลาะกันเลย”

สำหรับด้าน ธันญ์ เองกล่าวเรื่องนี้ว่า “ผมไม่ได้คิดอะไรมากอยู่แล้ว ผมกับยุ้ยอยู่กลุ่มเดียวกัน” แล้วที่คนมองว่าเป็นมือที่สาม? “เหรอครับ ผมเป็นมือที่สามเหรอ แล้วแต่คนจะมองมากกว่า ผมไม่ได้สนใจอะไรอยู่แล้ว” มีผลกับคนที่เราดูอยู่ด้วยมั้ย? “ไม่มีอะไร เป็นเรื่องปกติ” ตอนนี้ธันญ์กับต้องสถานะยังเหมือนเดิมมั้ย? “ก็ยังคุยกัน แต่ตอนนี้เราจะห่างกันมากกว่า เพราะว่าเจอกันน้อยลง แต่ก็ยังเหมือนเดิม” แล้วเค้าถามเรื่องข่าวมั้ย? “เรื่องปกติครับ ตอนนี้คงเป็นจุดสนใจด้วยมั้ง เพราะยุ้ยเค้าก็เพิ่งเลิกกับแฟน แล้วผมก็เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่กับสปีดวันด้วย” แล้วรู้สึกยังไงบ้างกับข่าวนี้? “ไม่ได้รู้สึกอะไรมาก ก็ถือว่าเรื่องปกติในวงการ ที่สนิทกับใคร แล้วเป็นจังหวะพอดีด้วย” ยุ้ยเค้าก็ค่อนข้างจะสนิท มีอะไรก็ปรึกษา? “ก็คุยกันตลอด ช่วงนี้ออกงานกันตลอด มีงานโชว์ตัวเป็นแพ็กคู่ไป โปรโมตละครด้วย” เปอร์เซ็นต์ความเป็นไปได้กับยุ้ยล่ะมีมั้ย? “ก็เป็นเพื่อนที่ดีกัน สนิทกัน เป็นกลุ่มกันอยู่แล้ว” อนาคตเป็นไปได้มั้ย? “โอ้ยเป็นเพื่อนกันดีที่สุดแล้วครับ”.

Sunday, March 22, 2009

ต๊ะ ไม่แมนแซว เอมมี่ หัวนมดำ

ต๊ะ ไม่แมนแซว เอมมี่ หัวนมดำ เจ้าตัวข่มใจไม่โกรธ บอกจะสีอะไรก็เรื่องของตน ย้อนอยากให้คิดก่อนพูด ยิ้มเขินเสียงชมหน้าอกหน้าใจสวยตู้ม ยอมรับจิตตกไปไหนคนจะมองโฟร์โมสต์มากกว่าหน้า!!!

หลังไปเผลอทำนมหกล้นทะลักหวิดเจ้าจุกโผล่กลางห้างดัง จากนั้นดาราสาว เอมมี่-มรกต กิตติสาระ ก็พูดติดตลกปนขำๆ กับสื่อว่า หากจะรีทัชสติ๊กเกอร์ปิดจุกออก ขอให้รีทัชหัวนมเป็นสีชมพูจะได้ดูสวยงาม ซึ่งคำพูดนี้เองที่ทำให้อดีตเพื่อนชายคนสนิท ต๊ะ-วริษฐ์ ทิพโกมุท ได้หยิบเอามาเป็นหัวข้อพูดแซวว่า ถ้าอย่างนั้นของจริงคงจะดำ ผู้สื่อข่าวจึงได้ไปสอบถามเอมมี่ว่า รู้สึกอย่างไรกับคำพูดของต๊ะ เจ้าตัวทำหน้าเหวอยิ้มเจื่อนๆ ก่อนตอบว่า

"ก็ขำๆ มากกว่า (หัวเราะ) แล้วแต่ละกัน มี่คงไม่เปิดให้ใครดูหรอก จะเป็นสีอะไรก็เรื่องของมี่หรือเปล่า (หัวเราะ) มันเป็นปัญหาของมี่ พี่ต๊ะก็ไม่ต้องกังวลหรอก มันไม่ได้กระทบอะไรกับพี่ค่ะ มี่ไม่โกรธที่เขาพูดอย่างนี้ เขามีความคิดเป็นของตัวเองไม่เป็นไร ไม่มีอะไรต้องโกรธ มี่มีเพื่อนปากแบบนี้เยอะ (หัวเราะ) แต่คนอื่นจะรู้สึกหรือเปล่า ประชาชนจะรู้สึกหรือเปล่า มี่ไม่ทราบ"

"เขาพูดแบบนี้ถามว่าดูไม่แมนไม่ให้เกียรติเราหรือเปล่า เฉยๆ ค่ะ มันเป็นภาพพจน์ของเขา ไม่ใช่ภาพพจน์ของมี่ มี่ทำตัวของมี่แบบนี้ เขาจะพูดอะไรยังไงก็แล้วแต่เขา มี่เป็นคนคิดก่อนพูดอยู่แล้ว (กลัวคนอื่นจะคิดเหมือนที่ต๊ะพูดมั้ย?) ก็อย่างที่บอกแล้วแต่จะคิดละกัน มี่คงไม่มานั่งประกาศบอกหรอกว่ามันเป็นยังไง (หัวเราะ) แล้วก็ไม่อยากให้คนทั่วโลกเห็น"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าเจอแซวขนาดนี้ หากต๊ะโทรมาหาจะรับหรือไม่ เอมมี่ตอบว่า "ก็รับค่ะ เมื่อวานเขาก็โทรมาแต่มี่ไม่ได้รับเพราะทำงานอยู่ คือมี่ไม่ค่อยสนใจสิ่งที่คนอื่นพูด ถ้ามันไม่จำเป็นต้องใส่ใจ มี่จะใส่ใจคนรอบข้างหรือคนที่เราแคร์มากกว่า มี่จะพยายามไม่เอาเรื่องพวกนี้เก็บมาคิด เพราะแค่นี้มี่ก็คิดเยอะพออยู่แล้ว สำหรับตัวเขาถ้าอยากจะพูดอะไรมันก็จะออกมาทางสื่อเอง ทุกคนสามารถพูดอะไรตามใจได้อยู่แล้ว แต่คนอ่านจะใช้วิจารณญาณเองว่า ความจริงมันเป็นยังไง และใครเป็นยังไง เขาต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาพูด ตัวมี่เองก็รับผิดชอบสิ่งที่มี่พูด"

ถามถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่กล่าวชมหน้าอกหน้าใจว่าสวยตู้มของจริง ดาราสาวยิ้มเขินก่อนเผยถึงสาเหตุที่ทำให้โฟร์โมสต์สวยว่า

"คือคุณแม่บังคับให้ใส่เฟิร์สบรามาตั้งแต่เด็ก ก็ไม่รู้เกี่ยวหรือเปล่า (หัวเราะ) มี่เป็นเด็กผู้หญิงที่ค่อนข้างใส่ใจเรื่องพวกนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว และคุณแม่ก็ค่อนข้างผู้หญิงหน่อย เขาก็จะให้เราแต่งตัวถูกต้องมาตั้งแต่เด็ก เวลาเล่นกีฬาก็ให้ใส่ ให้เราดูแลไม่ให้ปล่อยปละละเลย"

"แต่ตอนนี้สิ่งที่มี่กังวลคือ เวลาไปไหนมาไหนคนจะมองหน้าหรือมองอะไร อย่างวันนี้ก็เพิ่งเจออะไรแปลกๆ คือพี่ที่ขับรถให้ยูเทิร์นผิดที่ ตำรวจก็เรียกให้หยุดบอกไม่ได้ พี่คนขับรถบอกคุณเอมี่ต้องรีบไปงานจริงๆ ตำรวจก็ถามไหนๆ ขอดูหน่อย เขาก็ถามว่าใช่หรือเปล่า เราก็ตอบค่ะ เขาเลยโอเค.เชิญครับๆ มี่ก็คิดเขามองหรือเปล่าวะ....อาย (หัวเราะ) เริ่มสงสัยก็อายนิดหนึ่ง ช่วงนี้เพื่อนชวนไปไหนมาไหนก็ไม่ค่อยจะไป หรือไม่ก็ใส่แว่นอำพรางเพราะอาย กลายเป็นจิตตกเล็กน้อย คงต้องใช้เวลาอีกสัก 2-3 วันกว่าจะชินกับมัน (ทำให้งดแต่งเซ็กซี่ไปเลย?) มี่ก็แต่งปกติของมี่ เพียงแต่ต้องเซฟติดสติ๊กเกอร์อย่างตอนนี้ก็ติด และอาจจะเพิ่มมากกว่าเดิม จากตอนนั้นติด 20 แผ่น ตอนนี้ก็เพิ่มเป็นคูณสอง (หัวเราะ)"

เมื่อถามว่าหลังออกมาหลั่งน้ำตาขอโทษไปแล้ว มีฟีดแบคกลับมาอย่างไรบ้าง เอมมี่จึงกล่าวขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ในแง่บวก ด้านผู้ใหญ่ 7 สีก็แค่ตักเตือนให้ระวังตัวมากขึ้น ส่วนเพื่อนชายคนสนิทก็เข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุ

"มี่ก็ได้อธิบายมุมมองของตัวเองไปแล้วว่า เหตุการณ์เป็นยังไง ก็สบายใจขึ้นนิดหนึ่ง ดีใจที่เวลาไปไหนมาไหนมีแต่คนมาให้กำลังใจ ก็ขอบคุณมากๆ ที่เห็นใจ ทางผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ดุ เพียงแต่เตือนให้ระวังตัวในอนาคต พ่อแม่ก็ไม่ว่า เพราะเขารู้ว่าเป็นอุบัติเหตุ ก็บอกให้เราระวังในคราวหน้า ส่วนเพื่อนชายที่สนิทหลายคนก็บอกว่าไม่เป็นไร มันเป็นอุบัติเหตุ เชื่อว่าคราวหน้ามี่คงจะระวังมากขึ้น และหวังว่าในอนาคตคงไม่เกิดขึ้นอีก"

"จริงๆ งานนั้นก็ไม่ได้เกี่ยวกับทางออกาไนซ์เลย เกี่ยวกับความผิดพลาดของตัวเอง ซึ่งมี่เองต้องระวังตัวให้มากขึ้น ต้องเซฟขึ้นแม้แต่ตอนเดิน ที่มี่กังวลก็คือภาพที่ออกมาจะทำให้ภาพพจน์นางงามของมี่ติดลบ เพราะตัวเราเองไม่เคยมีภาพประมาณนี้ออกมา ในระยะเวลาหลายปีที่อยู่ในวงการ เราก็ประคองตัวเองมาได้ดี แต่พอมีภาพในแง่ลบเลยทำให้เราค่อนข้างกังวล (มีข่าวว่าท้อจนอยากลาออกวงการ?) ไม่เคยพูดนะ (หัวเราะ) มี่ว่ามันเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นได้ จริงๆ มี่ก็รับผิดและขอโทษแล้วกับสิ่งที่เกิดขึ้นและมีภาพออกมา แต่ไม่ได้คิดถึงขั้นจะลาออกจากวงการ"

ฮิวโก้-ฮาน่า ฉลองสมรสชื่นมื่น

ฮิวโก้-ฮาน่า ฉลองสมรสชื่นมื่น เมื่อเวลา 18.00 น.วันที่ 21 มี.ค.ที่บ้านจักรพงษ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่าได้มีพิธีเลี้ยงฉลองมงคลสมรสคู่รักดารา-นักร้อง ระหว่าง “ฮิวโก้” จุลจักร จักรพงษ์ กับ “ฮาน่า” ทัศนา วลัย จักรพงษ์ ภายในงานตกแต่งด้วยซุ้มกุหลาบสีแดงขนาดใหญ่ ที่พื้นทางเดินโรยกลีบกุหลาบสีแดงเช่นกัน บรรยากาศสุดโรแมนติก ต่อมาคู่สามี-ภรรยาข้าวใหม่ปลามัน ออกมาให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวด้วยสีหน้าชื่นมื่นปนเขินอาย โดย “ฮาน่า” กล่าวว่า ฮาน่ากับเล็ก (ฮิวโก้) เพิ่งทำพิธีทางศาสนาอิสลามเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา และจดทะเบียนสมรสกันวันนั้นเลย ส่วนวันนี้เป็น งานเลี้ยงฉลอง รู้สึกกังวลเหมือนกัน คิดว่าแขกเหรื่อ และเพื่อน ๆ จะมีความสุขไหม แต่พอทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีก็โล่งใจ มีร้องไห้บ้าง เหมือนกัน เพราะต้องห่างแม่มา ฮาน่าติดแม่มาก ผู้สื่อข่าวถามว่าจะมี “ฮิวโก้น้อย” เลยหรือไม่ ฮาน่ากล่าวว่า คิดว่าอีก 2 ปี น่าจะมีได้ แต่ตอนนี้ก็ขอปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า ส่วนเรื่องฮันนีมูนยังไม่แน่ใจว่าจะไปที่ไหน สินสอดก็ไม่ขอพูดถึง ขอเก็บเป็นเรื่องส่วนตัวดีกว่า อย่างไรก็ตาม ฮาน่าดีใจมากที่ได้แต่งงานกับผู้ชายคนนี้ ถ้าไม่ได้แต่งกับเล็กจะเสียใจมาก เพราะเล็กเป็นสามีที่ดีที่สุดในโลก ด้าน “ฮิวโก้”กล่าวว่า ตื่นเต้นมากวันที่ทำพิธีทางศาสนา เพราะต้องกล่าวคำปฏิญาณยาวมาก แต่วันนี้ก็ดีใจที่มีผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อน ๆ มาเยอะ จากนี้ตนก็คงต้องกลับไปทำงานที่สหรัฐอเมริกา ส่วนฮาน่าหากเขาอยากจะทำงานในวงการต่อ ก็ตามใจเขาอยู่แล้ว.

ต๊อด ได้ฤกษ์แต่งนุ่นปีหน้า

ต๊อด ได้ฤกษ์แต่งนุ่นปีหน้า แม้ว่าพูดปฏิเสธเรื่องวิวาห์ทุกครั้งที่ถูกถาม แต่มีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ยืนยันว่า เร็วๆนี้จะมี “ข่าวดี” ของคู่หวาน นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์ นางเอกวิก 7 สี กับ ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี นักธุรกิจหนุ่มเนื้อหอมทายาทเบียร์สิงห์แน่นอน โดยข่าวดังกล่าวหลุดมาจากเพื่อนสนิทของ ต๊อด ว่า ต๊อด ได้เอ่ยขอ นุ่น แต่งงานแล้ว ซึ่งนางเอกสาวก็เห็นว่าใช้เวลาคบหาดูใจกันมานานพอสมควรแล้ว จึงตอบรับ ต๊อด จากนั้นหนุ่มสิงห์ก็ ได้นำข่าวดีไปบอกกล่าวให้สมาชิกครอบครัวได้ทราบ ซึ่ง ทุกคนก็ยินดีกับข่าวดังกล่าว ถึงกับได้นำดวงของ ต๊อด-นุ่น ไปหาฤกษ์ยามเพื่อประกอบพิธีมงคล แต่ปรากฏว่าฤกษ์ปีนี้ไม่มี อย่างเร็วที่สุดต้องปีหน้า ต๊อด-นุ่น จึงตกลงเปลี่ยนมาเป็นการ หมั้นไว้ก่อน ซึ่งข่าวดังกล่าวสร้างความยินดีให้แก่เพื่อนของทั้งสองฝ่าย เพราะเห็นว่าคู่นี้เหมาะสมกันอย่างกับ “กิ่งทองใบหยก”.

Friday, March 20, 2009

การ์ตูน-อินทิรา โต้ข่าวแต่งงานมาก่อน

การ์ตูน-อินทิรา โต้ข่าวแต่งงานมาก่อน การ์ตูน-อินทิรา เถียงเสียงแข็งไม่เคยใจแตกวิวาห์สมัยวัยละอ่อน พ้อข่าวชักไปกันใหญ่ พร้อมปัดนักร้องสุดหล่อ "โดม" ใจป้ำทุ่มเงินซื้อคอนโดให้ โต้เปิดตัวเป็นแฟนยอมออกงานเดียวกัน ลั่นสัมพันธ์ยังแค่พี่น้อง!!!

ตั้งแต่ตกเป็นข่าวกิ๊กนักร้องหล่อขั้นเทพ โดม-ปกรณ์ ลัม งานก็เข้าดาราสาวการ์ตูน-อินทิรา ไม่เลิก ล่าสุดมีกระแสข่าวการ์ตูนเคยแต่งงานมาแล้วตั้งแต่ก่อนเข้าประกวดมิสทีนไทยแลนด์ ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าดาราสาวขณะมาร่วมงานแถลงข่าวงานสงกรานต์ เฟสติวัล ครั้งที่ 21 ที่ห้างสยามพารากอน ซึ่งในงานเดียวกันนี้เองหนุ่มสุดหล่อ โดม-ปกรณ์ ลัม ยังได้มาร่วมร้องเพลงเล่นคอนเสิร์ตบนเวทีเดียวกันด้วย งานนี้การ์ตูนได้กล่าวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่า

"ไม่มีค่ะ ไปกันใหญ่แล้วเรื่องนี้ ตอนเด็กๆ ตูนก็มีแฟนเป็นเรื่องของเด็กๆ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรขนาดนั้น ซึ่งเรื่องนี้พี่โดมก็ถามตามปกติ เขาก็ถามไปเรื่อย ถามโน่นถามนี้ไม่มีอะไร เราคุยกันปกติคุยได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว ดูเขาก็ไม่ซีเรียสนะคะ พี่เขาชิลๆ อยู่แล้ว แต่ต้องไปถามพี่เขาเอง ส่วนตัวตูนก็ไม่ซีเรียสอะไร ทุกวันนี้ชีวิตตูนจะซีเรียสหรือกังวลกับหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะตูนมีภาระหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบเยอะ ไหนจะเรียนและทำงานไปด้วย จะกังวลเรื่องที่ผู้ใหญ่มอบหมายให้ทำงาน และตูนต้องดูแลครอบครัวด้วย ตูนจะซีเรียสและกังวลเรื่องนี้มากกว่าเรื่องอื่น"

ผู้สื่อข่าวถามต่อถึงกระแสข่าวนักร้องหนุ่มใจป้ำทุ่มเงินซื้อคอนโดให้ การ์ตูนทำหน้าเซ็งก่อนปฏิเสธว่า
"ไม่มีค่ะ อย่างที่บอกข่าวตอนนี้ไปเรื่อยแล้วค่ะ มันต้องแยกแยะนิดหนึ่ง ถามว่าตูนเคยคิดจะซื้อคอนโดหรือเปล่า ก็มีบ้างที่คิดไว้ว่าจะซื้อ เพราะตัวเองอยู่หอของมหาวิทยาลัยมา 3-4 ปี แล้ว ก็รู้สึกว่าถ้าเราโตกว่านี้จะเก็บเงินซื้อ แต่ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาซื้อให้"

"เรื่องข่าวต่างๆ ที่เกิดขึ้นทางผู้ใหญ่ก็มีเตือนๆ ว่าอย่ามีข่าวเยอะ แต่เขาไม่ได้เจาะจงเรื่องอะไรเป็นพิเศษ เพราะช่วงนี้มีข่าวหลายกระแสเหลือเกิน ส่วนตัวพี่โดมก็มีให้กำลังใจบ้าง พี่เขาก็บอกว่าอย่าเครียด มันเป็นแค่ส่วนหนึ่งของข่าว พี่เขาเจอและผ่านอะไรมาเยอะแล้ว ซึ่งตูนก็พยายามปรับตัวและเข้าใจให้มากขึ้นว่า เราอยู่ตรงนี้ มันต้องมีกระแสอะไรแบบนี้อยู่แล้ว ก็ไม่เป็นไรพี่ๆ ผู้สื่อข่าวก็เหมือนเป็นพี่ๆ น้องๆ กัน ไม่มีใครจะมาฆ่าเราให้ตาย คงไม่ทำอย่างนั้นอยู่แล้ว"

"จริงๆ ตูนก็ไม่ชอบเป็นที่จับตามองเท่าไหร่ แต่เรียกว่าเข้าใจมากกว่าไม่ได้อึดอัดอะไร อย่างที่บอกตูนเหนื่อยกับงานและเรื่องเรียนมากกว่า ส่วนเรื่องอื่นไม่ใช่ประเด็นสำคัญของชีวิต ที่ตูนซีเรียสคือจะทำยังไงให้ครอบครัวตูนมีความสุขที่สุด ดูแลครอบครัวให้พ่อแม่สบายที่สุดมากกว่า"

ต่อข้อซักถามถึงการมาร่วมงานเดียวกัน เหมือนเป็นการเปิดตัวในฐานะแฟนแล้วหรือไม่ ดาราสาวกล่าวว่า

"ออกงานเดียวกันแต่ไม่ได้ตั้งใจจะมาเปิดตัวอะไรเลย บางคนอาจเข้าใจไปอย่างนั้นแต่จริงๆ ไม่ใช่ เราอยู่ในวงการเดียวกัน พี่เขาเป็นศิลปินหรือนักแสดงก็ต้องมีเจอกันบ้างอยู่แล้ว ตูนเองก็เพิ่งทราบไม่นานว่าพี่เขาจะมางานเดียวกัน แต่ตูนไม่ซีเรียสอะไรเพราะมันไม่ใช่เรื่องใหญ่ เพียงแต่เราอาจจะไม่พร้อมที่จะมาพูดอะไรคู่กัน มันยังไม่ถึงขั้นนั้นก็ต้องขอไว้นิดหนึ่ง (ตั้งแต่มีข่าวกับโดม การ์ตูนมีงานเยอะขึ้น?) จริงๆ แล้วงานหลักๆ เป็นงานที่ตูนรับไว้แล้วจากกระแสละคร ต้องยกความดีความชอบให้ละครเรื่องเมียหลวงมากกว่า จริงๆ งานมีติดต่อเข้ามาเรื่อยๆ อยู่แล้ว พอตูนสอบเสร็จก็ทำเต็มที่เลย ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้เท่าไหร่ เราก็รับเท่าที่กำลังเราไหวและพอดูแลครอบครัวได้อย่างสบายก็พอ ไม่จำเป็นต้องโหมงานขนาดนั้น"

"ความสัมพันธ์กับพี่โดมตอนนี้ก็ยังเป็นพี่น้องกันอยู่ ยังคุยกันอยู่เรื่อยๆ แต่เราไม่ได้คุยเรื่องข่าวกันเลย เพราะมันไม่ใช่ประเด็นใหญ่อะไร (ข่าวมีผลอาจทำให้หยุดการพัฒนาสัมพันธ์?) ไม่เกี่ยวค่ะ เรื่องจะพัฒนาหรือไม่มันไม่เกี่ยวกับสิ่งรอบข้าง อยู่ที่เราคุยกันแล้วเป็นยังไงมากกว่า แต่ตอนนี้ยังไม่มีพัฒนาอะไร"

สัมพันธ์ 'ออย' ฟาง ไม่ผูกมัด

สัมพันธ์ 'ออย' ฟาง ไม่ผูกมัด ถึงแม้จะเคยออกมาประกาศว่าห่างๆ กัน แต่ไม่มีใครอยากเชื่อคำของนางเอกขาสวย ฟาง-พิชญา ศรีเทพย์ ซักเท่าไหร่ เพราะยังมีคนเห็นว่า น้องฟาง ไปไหนมาไหนกับพระเอกติสท์แตก ออย-ธนา อยู่ ซึ่งเรื่องนี้ ฟาง กล่าวว่า “จริงๆมันนานแล้ว ไม่ได้ไปกันเร็วๆนี้ แต่ก็ไม่ได้มีอะไร รู้จักกัน ก็ทานข้าวกันปกติ” แต่มีคนเห็นไปแถวศาลายาด้วยกัน “ไม่ค่ะ อันนี้ไม่ทราบ ล่าสุดที่เจอพี่ออยนานมากแล้ว หลายเดือน น่าจะช่วงต้นปี นานๆก็คุยกันที ก็ยังเป็นคนรู้จัก พี่ออยก็ยังเรียกว่าเป็นพี่ชายอยู่ ก็ยังรู้สึกว่าพี่เค้าเป็นแค่พี่ชาย” แล้วห่างขึ้นมั้ย? “ก็ห่างเพราะต่างคนต่างทำงาน” เหมือนไม่ชัดเจนเลย “จริงๆฟางก็ชัดเจนนะคะ กับพี่ออยเราก็ไม่ได้นิยามคำว่าแฟนหรืออะไร เราก็รู้จักกัน เราแฮปปี้ ที่จะอยู่ในสภาพตรงนี้ เราแฮปปี้ ไม่ต้องรู้สึกว่าต้องมาผูกมัดอะไร แค่นี้ก็โอเคแล้ว” การที่ฟาง เป็นคนไม่ผูกมัด เลยถูกใจพี่ออยหรือเปล่า? “ไม่เกี่ยวค่ะ ฟางกับพี่ออยเหมือนเป็นคนรู้จักกัน เป็นพี่ที่สนิทกัน ไม่น่าจะมีอะไรที่ต้องมาติดใจหรือยังไง” สนิทถึงขั้นคุยกันทุกเรื่องมั้ย? “ก็ไม่ทุกเรื่องค่ะ มีบ้างบางเรื่องที่เราไม่ สามารถคุยได้” ที่เราห่างเพราะออยมีข่าวกับแซมมี่-ปัณฑิตารึป่าว? “ไม่เกี่ยวค่ะ”.

Thursday, March 19, 2009

วันหวานยังหวานอยู่ เปิดใจ ยุ้ย ถึงสาเหตุเลิกรา

วันหวานยังหวานอยู่ เปิดใจ ยุ้ย ถึงสาเหตุเลิกรา ปิดฉากรักกับ หนุ่มปิ๊ด-ธนดล ไปแล้ว แต่ดูท่านางเอกสาว ยุ้ย-จีรนันท์ ยังลืมไม่หมดใจ เมื่อบุกมาย้อนวันวานรักแสนหวานใน “วันหวานยังหวานอยู่” ศุกร์นี้ 4 ทุ่มครึ่ง ช่อง 7 สี ซึ่ง ยุ้ย เปิดใจถึงสาเหตุการเลิกราด้วยนํ้าเสียงสั่นเครือ และเมื่อมาถึงช่วงที่ คุณแม่ ส่งกำลังใจมาให้ลูกสาวสุดที่รักว่า “รู้สึกสงสารลูก ปิ๊ด ก็เป็นคนดี แม่ก็รักเขา หวังไว้ว่าจะได้อยู่ด้วยกัน แต่ถ้าไม่ใช่ก็ไม่ใช่ ลูกรักใครแม่ก็รัก แต่แม่ก็รักปิ๊ดมากนะ” ยุ้ย ก็ถึงกับสุดกลั้น บ่อนํ้าตาแตกทันที นอกจากนี้ เหล่านักแสดงจาก “ปอบผีโหด” เอ๊ย! “ปอบผีฟ้า” ธันญ์-ธนากร, เอ๋-พรทิพย์, แซมมี่, ฮันนี่ ยังมาร่วมเม้าท์เบื้องหลังสุดโหดที่เจอกันถ้วนหน้า โดยเฉพาะ หนุ่มธันญ์ ที่เจอ “สลิงหลอน” รัดเป้าระบม! แต่แค่นั้นยังจิ๊บๆ เมื่อต้องมาเจอ ป๋ากิ๊ก- หนูอ้อม ซัดหมัดตรง เป็นกิ๊กกับยุ้ยจริงหรือเปล่า? ห้ามพลาด!

Wednesday, March 18, 2009

วิลลี่ พา'เปิ้ล-หอย'ขอขมา

วิลลี่ พา'เปิ้ล-หอย'ขอขมา หลังจากหม่ำ จ๊กมก หรือนายเพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา ซุปเปอร์ตลกชื่อดัง ออกมาโวยถูก วิลลี่-เปิ้ล-หอย 3 หนุ่มพิธีกรรายการสาระแน อำแรง หลอกให้ไปเข้าฉากหนึ่งในภาพยนตร์เรื่อง “สาระแนห้าวเป้ง” แต่กลับกุเรื่องว่าให้ไปถ่ายโฆษณารณรงค์เมาไม่ขับ โดยในการถ่ายทำมีการสร้างเหตุการณ์หวาดเสียว จนหม่ำเกิดความกลัวสุดขีด และแสดงความไม่พอใจด้วยการออกมาแถลงข่าวโวย 3 หนุ่ม ว่า เล่นกันแรงเกินขอบเขตจนทำให้เสียความรู้สึกนั้น

ต่อมาเมื่อเช้าวันที่ 18 มี.ค. วิลลี่ แมคอินทอช 1 ใน 3 พิธีกร ได้มาร่วมพิธีบวงสรวงเปิดกล้องละครเรื่องสูตรเสน่หา ที่มูนสตาร์สตูดิโอ ซอยสหการประมูล ย่านเหม่งจ๋าย พร้อมกับกล่าวยอมรับผิดแทนเพื่อนกลุ่มสาระแน ถึงเหตุการณ์ที่หม่ำออกมาโวยต่อสื่อ พร้อมรับปากจะเป็นกาวใจเคลียร์ปัญหาที่เกิดขึ้น โดยวิลลี่ได้กล่าวยอมรับว่า ตั้งแต่ทราบเรื่องได้โทรศัพท์ไปขอโทษพี่หม่ำ ซึ่งพี่หม่ำไม่ได้โกรธตน เพียงแต่งอนเปิ้ลกับหอย เพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์วันนั้น เปิ้ลกับหอยเป็นคนดำเนินรายการ พี่หม่ำเป็นคนน่ารัก เป็นคนดีและเป็นคนที่มีบุญคุณกับพวกเรา เป็นคนที่ทำให้พวกเราได้มีโอกาสทำหนัง เพราะบังเอิญเขาสนิทกับเปิ้ล แต่เปิ้ลกลับเป็นคนไปทำพี่หม่ำงอน ได้เตือนเปิ้ลว่า อย่างไรต้องขอขมาพี่หม่ำ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างหาวันเข้าไปหาพี่หม่ำเพื่อขอโทษขอขมากันอยู่ ที่ผ่านมาพี่หม่ำรับโทรศัพท์ตน แต่ไม่รับโทรศัพท์ของเปิ้ลกับหอย เพราะ 2 คนไปทำให้พี่หม่ำตกใจ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เป็นการบันทึกเทปรายการสาระแน แต่เป็นฉากหนึ่งในหนังเรื่องสาระแนห้าวเป้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการนำเทปดังกล่าวออกฉายหรือไม่ วิลลี่กล่าวว่า ขอให้เป็นการตัดสินใจของพี่หม่ำ ถ้าพี่หม่ำหายโกรธหายงอนเปิ้ลกับหอย ก็ไม่น่ามีปัญหา ต้องรอวันที่พี่หม่ำหายงอน ตนอาจจะพาเข้าไปขอขมาขอโทษเพราะยังไงก็เป็นพี่น้องในวงการเดียวกัน ไม่ได้มีเจตนาที่ทำอะไรรุนแรง เปิ้ลกับหอยพยายามโทร.หาพี่หม่ำทุกวันตั้งแต่เกิดเรื่องเพื่อขอโทษแต่พี่หม่ำยังไม่ยอมรับสาย เชื่อว่าพี่หม่ำคงเอาคืนบ้าง สำหรับวันที่จะเข้าไปขอขมายังกำหนดไม่ได้ต้องขอดูคิวพี่หม่ำ ดูว่าพี่หม่ำจะอารมณ์ดีขึ้นวันไหน ว่างเปิดใจคุยกับเปิ้ลกับหอยหรือยัง ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ตนจะพา 2 คน ไปขอขมาทันที

วิลลี่กล่าวต่อว่า รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตขนาดนี้ แต่พวกเรารู้จักพี่หม่ำดี รู้ว่าจริงๆ พี่หม่ำไม่ได้โกรธแค่งอนเพราะเค้าสนิทกับเปิ้ลมาก ส่วนที่ถามว่า การออกมาแถลงเรื่องนี้ เป็นการโปรโมตให้ภาพยนตร์ดังหรือไม่นั้น ถ้าคิดในแง่การ โปรโมตก็คงดีเหมือนกัน แต่บังเอิญไม่รู้เหมือนกัน หนังจะเข้าฉายเมื่อไหร่ ถ้าเป็นการโปรโมตก็โปรโมตล่วงหน้า นานไปนิดนึง ถ้ามีกำหนดแล้วโปรโมตใกล้ๆ คงดี แต่อันนี้ ยังถ่ายทำไม่เสร็จเลย ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าสิ่งที่ถ่ายไปตรงนี้ จะได้ออกฉายหรือเปล่า คงต้องรอคุยแล้วแต่ความยินยอมของพี่หม่ำ ถ้าพี่หม่ำไม่ให้ออกฉายยังไงก็ฉายไม่ได้ แต่ภาพ ที่เกิดขึ้นเป็นภาพที่พี่หม่ำไม่เคยทำมาก่อน แต่อย่างไรเสียเราต้องให้เกียรติพี่หม่ำ เพราะพี่หม่ำเป็นตลกชั้นแนวหน้าและอาวุโสของวงการบันเทิง ต้องให้เกียรติแบบพี่ แบบน้อง ถ้าผิดก็ต้องขอโทษ

ผู้สื่อข่าวถามว่า รายการสาระแน มักจะชอบแกล้งคนอื่น จนถูกโวยมาแล้วหลายครั้ง จะมีการระมัดระวังบ้างหรือไม่ พระเอกหนุ่มยืนยันว่า การไปแกล้งคนอื่นไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะจะไม่ไปกระทำกับประชาชน ทั่วไป จะเล่นกับคนวงการบันเทิงที่เคลียร์ได้ เรารู้ว่าทำในสิ่งที่เราควบคุมได้ กรณีพี่หม่ำ ตนเชื่อว่าพี่หม่ำไม่ได้ ซีเรียสอะไรมาก คงงอนเปิ้ลและจะเอาคืนเปิ้ล ในภาพเป็นยังไงตนไม่ได้เห็น แต่คงไม่รุนแรงอะไรมากมาย แต่ยอมรับว่าเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้พี่หม่ำเกิดความกลัว เพราะเป็นจุดอ่อนของพี่หม่ำด้วย เปิ้ลไม่น่าทำแบบนี้ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่เชิงเป็นการนำจุดอ่อนดารามากลั่นแกล้ง เพียงแต่เปิ้ลสืบทราบมาว่า เป็นสิ่งที่พี่หม่ำไม่เคยทำมาก่อนเท่านั้นเอง ส่วนดาราคนอื่นๆ ถามว่า จะมีวิธีป้องกันอะไรมั้ย ดาราอื่นๆ คงไม่ทำอะไรที่รุนแรง ถ้าเป็นอะไรที่อยากร่วมสนุก การทำของเราเป็นการสร้างสีสันเท่านั้นเอง ความปลอดภัยไม่ต้องห่วง เป็นอันดับหนึ่ง จากปัญหาตรงนี้ไม่มีผลทำให้โปรเจกต์งานต้องสะดุด ยังคงเดินหน้าต่อไปได้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ต้องรับหน้าที่กาวใจรู้สึกอย่างไรบ้าง วิลลี่เผยว่า จะพยายามประสานให้ดีที่สุด ต้องมีคนกลางไกล่เกลี่ย ต้องขอขมาพี่หม่ำให้ได้ จากเรื่องที่เกิดขึ้นเชื่อว่าเปิ้ลซีเรียสพอสมควร คงคาดไม่ถึงว่าพี่หม่ำจะโกรธจะงอนขนาดนี้ ต่อไปนี้คงอยู่อย่างระแวง พวกเราแกล้งคนเอาไว้เยอะ ทุกคนรู้สึกผิดกับกรณีที่เกิดขึ้น ต้องระวังตัวให้ดีกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นมา ปีนี้เป็นปีชงของตนด้วย ทั้งๆที่ไม่ได้ทำอะไร อยู่บ้านเลี้ยงปลา ก็มีเรื่องมีข่าวลงหนังสือพิมพ์หน้า 1

เย็นวันเดียวกัน เปิ้ล-นาคร ศิลาชัย พร้อมด้วยนายนฤบดี เวชกรรม ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สาระแนห้าวเป้ง” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่หม่ำเกิดอาการไม่พอใจ ที่ถูกอำแรงและออกมาจวกยับ 3 พิธีกร ผ่านทางรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 โดยเปิ้ลกล่าวว่า ได้ขอโทษหม่ำไปแล้วเมื่อวันที่ 17 มี.ค. และวันเกิดเรื่องก็ได้ขอโทษเช่นกัน ขณะที่หม่ำลงจากรถแท็กซี่ในฉาก คือพอเกิดเรื่องแล้วพี่หม่ำลงจากรถแท็กซี่ ตนกับหอยและพวกทีมงาน ก็ได้ไปเฉลยตัว ไหว้ขอโทษพี่หม่ำ ซึ่งพี่หม่ำก็ด่าใส่มาเป็นชุด ก่อนที่เราจะแกล้งใคร เราจะศึกษาก่อนว่าอะไร คือส่วนที่คนไม่เคยเห็นและจริงที่สุดในชีวิตเขา คนทางบ้านอาจจะเห็นพี่หม่ำสนุกสนานมาตลอด แต่จุดนี้คนไม่เคยเห็นว่าเวลากลัวเป็นอย่างไร ตนจะไม่กล้าเล่นเลยถ้าไม่ใช่พี่หม่ำ เพราะตนกับพี่หม่ำสนิทกันมาก กินข้าวด้วยกัน ไปเที่ยวด้วยกัน ขนาดกินข้าวอยู่พี่หม่ำเอาเท้ามาปาดปากตนก็เคย เล่นกันขนาดนี้ได้หมด ฉะนั้นอะไรที่แรงๆแบบนี้บอกได้เลยว่า ไปเล่นกับคนอื่นไม่ได้ แต่เรามั่นใจกับพี่ชายคนนี้

พิธีกรรายการได้ถามว่ารู้สึกอย่างไรกับการเล่นกับความกลัว คนกลัวตาย เปิ้ลตอบว่า ถามว่ามันน่ากลัวมากหรือไม่ ทีมงานเตรียมงานมา 2 เดือนเพื่อฉากนี้โดยตรง เตรียมทุกจุดทุกที่ที่พี่หม่ำจะผ่าน คนขับรถแท็กซี่ก็เป็นนักขับรถแข่ง เป็นมืออาชีพที่เตรียมมา ถังแก๊สเป็นถังปลอม ได้มีการทดลองฉากนี้หลายครั้งหลายหนจนปลอดภัย ทีมงานสตันต์เป็นทีมระดับหนึ่งของเมืองไทย เสียงระเบิดเป็นเสียงจริง แต่ไม่มีอันตรายแต่ภาพตรงนี้อาจทำให้พี่หม่ำกลัว เพราะมองจากในรถเห็นอะไรวูบวาบค่อนข้างรุนแรง ตรงนี้ก็ยอมรับเป็นใคร ใครก็กลัว วันนั้นได้ขอโทษแล้ว แต่พี่หม่ำรีบขึ้นรถกลับบ้าน ตนพยายามโทรศัพท์ไปหาก็ไม่ยอมรับสาย จึงโทรศัพท์ ไปหาเสี่ยเจียง เล่าเรื่องให้ฟัง เสี่ยเจียงก็บอกว่าจะเคลียร์ให้ จึงรู้สึกสบายใจขึ้น จนเมื่อวันที่ 18 มี.ค. มีข่าวว่าพี่หม่ำยังโกรธอยู่ ยังงอนอยู่ ตนก็โทรศัพท์ไปหา พี่หม่ำก็รับสายเป็นครั้งแรกหลังจากเกิดเรื่อง ถามว่าโทร.มาทำไมเปิ้ล ตนก็ขอโทษพี่หม่ำและถามว่ายังไม่หายโกรธหรือ พี่หม่ำก็บอกว่ากูงอน มึงไม่ต้องมาพูดเลย และบอกว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ตนยังบอกไปว่าวันหลังจะเอาดอกไม้ธูปเทียนมาไหว้พี่นะ แต่พี่หม่ำบอกว่ามึงหาตัวกูให้เจอก่อนก็แล้วกันก่อนจะวางสายไป

เมื่อถามว่าจะนำฉากที่หลอกหม่ำไปถ่ายมาประกอบภาพยนตร์หรือไม่ เปิ้ลตอบว่า ก็ต้องนำมาประกอบด้วยเพราะลงทุนไปขนาดนั้น แต่ขึ้นอยู่กับพี่หม่ำ หากไม่อนุญาตก็ต้องตัดออก ถ่ายทำไปแล้วมันต้องอยู่เพราะอยู่ในบทหนังทั้งหมด โครงเรื่องทั้งหมดค่อนข้างสำคัญ ถ้าพี่หม่ำไม่อนุญาตก็จบเราต้องเคารพสิทธิของเขา ในส่วนความรู้สึกว่าแรงไปหรือไม่ คือแรง แต่จะไม่เล่นแบบนี้กับคนอื่นที่ไม่สนิท พี่หม่ำเหมือนพี่ชาย ถ้าไม่มีเขาหนังเรื่องนี้จะไม่เกิด เพราะเขาเป็นคนติดต่อพาตนไปพบเสี่ยเจียง พี่หม่ำเป็นคนให้คำปรึกษามาตลอด ตนก็บอกว่าอยากให้พี่หม่ำมีส่วนในหนังเรื่องนี้ด้วย อย่างไรก็ตาม ตนต้องขอโทษพี่หม่ำให้ได้ ต้องคุยจนกว่าจะหายงอน ถ้าพี่หม่ำบอกให้ชดใช้โดยให้ทำอะไรก็ได้ จะให้กราบเท้า ก็ได้ ยืนยันว่าขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น

บอล ภราดร พาสาวขึ้นห้อง นาตาลี ยันไม่รู้ไม่เห็น

บอล ภราดร พาสาวขึ้นห้อง นาตาลี ยันไม่รู้ไม่เห็น ลือสนั่น บอล - ภราดร พาสาวขึ้นห้อง นาตาลี เมียรักโนคอมเมนต์ ยันสัมพันธ์ยังเหนียวแน่น ฟุ้งลุ้นเจ้าตัวเล็กปีนี้มีข่าวลือรักๆ เลิกๆ จนขาเตียงแทบสั่นคลอนออกมาเป็นระลอก สำหรับอดีตนางงามจักรวาล นาตาลี เกลโบว่า ศรีภรรยานักเทนนิสชื่อดังของเมืองไทย บอล - ภราดร ศรีชาพันธุ์ ที่ล่าสุดมีข่าวลือว่า ''ซูเปอร์บอล'' จูงมือสาวไทยนิรนามขึ้นห้อง โดยล่าสุดถือว่าแจ็กพอตจริงๆ สำหรับผู้สื่อข่าวที่ได้พบนางงามสาวที่มาเป็นพรีเซนเตอร์ในงาน ''ปิดไฟ 1 ชั่วโมงให้โลกพัก (60 Earth Hour)'' ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา ณ สวนสราญรมย์ เขตพระนคร เกี่ยวกับเรื่องนี้สาวงามกล่าวว่า ไม่มีความเห็นกับเรื่องนี้เพราะข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรตนยังไม่รู้และไม่ได้สอบถามจากสามี''ไม่มีความเห็นจริงๆ กับเรื่องนี้ เพราะไม่ทราบเหมือนกัน ณ ตอนนี้ความสัมพันธ์ของเราก็ยังดีต่อกันเหมือนเดิม ทุกสิ่งทุกอย่างยังเป็นปกติอย่างที่ทุกคนเห็น มีหลายครั้งที่มีคนมาพูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ได้ฟัง คงเพราะเห็นข่าวจากหนังสือพิมพ์ ซึ่งก็ตอบกับพวกเขาไปตามความจริงว่าไม่รู้ แต่ก็ยังไม่เห็นว่าพี่บอลมีคนอื่น''ผู้สื่อข่าวถามสาวงามต่อว่า หลังจากนี้จะมีคุยหรือเคลียร์กับสามีนักกีฬาหรือไม่ นางงามสาวกล่าวว่า ''คิดว่าไม่''
อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวได้ถามเกี่ยวกับสิ่งที่หลายคนลุ้นว่าจะมีเจ้าตัวเล็กออกมาเมื่อไหร่ ซึ่งสาวนาตาลีกล่าวว่า ตนไม่อยากไปกำหนดอะไรกับเรื่องนี้ขอปล่อยตามธรรมชาติแต่ในใจก็ลุ้นอยากให้มีเจ้าตัวน้อยภายในปีนี้อยู่เหมือนกัน''คิดว่าภายในปีนี้ ตอนนี้ก็อยากมี คิดว่าอย่างนั้นนะ แต่ก็ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ พยายามคิดในเรื่องดีๆ ทำในสิ่งดีๆ แต่อะไรจะเกิดขึ้นอันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เมื่อถามว่าตอนนี้พยายามมากไหมกับการมีลูก ก็ไม่นะทำทุกอย่างให้มันสบาย มีความสุขกับชีวิต ไม่เครียด คิดว่าเมื่อถึงเวลาก็จะมาเองอยากได้ยินการเรียกคำว่าแม่ คุณพร้อมที่จะเป็นแม่แล้วใช่ไหม เป็นสิ่งที่ผู้หญิงควรได้ยินมันเป็นสัญชาตญาณความเป็นแม่ ตอนนี้ก็พร้อมแล้ว'' นาตาลีกล่าวในที่สุด

Tuesday, March 17, 2009

หมออ้อย จุฑารัตน์ ถ่ายนู้ด

หมออ้อย จุฑารัตน์ ถ่ายนู้ด แจ้งข่าวด่วน ''หมออ้อย-จุฑารัตน์'' เตรียมสลัดผ้าถ่ายนู้ด ยั่วน้ำลายเสือ สิงห์ กระทิง ให้ได้แซบ รับลมร้อนเดือนเมษายน ด้วยค่าตัวสูงลิบลิ่ว ล้านอัพกับนิตยสารหัวสยิวอันดับแนวหน้าของเมืองไทย
เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสยามดาราได้รับการแจ้งข่าวการถ่ายหวิวของสาวมั่นจากแหล่งข่าวที่มีความใกล้ชิดกับทาง ''หมออ้อย'' จุฑารัตน์ อัตถากร ว่า เมื่อไม่นานมานี้ เธอได้รับการทาบทามให้ไปเป็นนางแบบในชุดสยิวกึ่งเปลือยของแม็กกาซีนที่มีรูปแบบในการนำเสนอความเซ็กซี่ทางด้านสรีระของสุภาพสตรี ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อนั้นทางหมอชื่อดังค่อนข้างจะซีเรียสและคิดหนักมากๆ ทั้งนี้เพราะต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ และด้วยหัวหนังสือที่ค่อนข้างแรงและดัง แต่เมื่อได้ปรึกษากับคนรอบข้างแล้ว ทุกคนเห็นพ้องว่าน่าจะถ่ายเก็บไว้ดูเป็นอัลบั้น เพียงแต่ให้ระมัดระวังเรื่องการโพสท่าให้ดีอย่างไรก็ตาม สยามดาราสอบถามต่อไปว่า การถ่ายแบบบรรจุเป็นอัลบั้มในครั้งนี้จะมีภาพหมออ้อยเปลือยหมดจดหรือเปล่า? แหล่งข่าวผู้ไม่ประสงค์ออกนามแจ้งว่า น่าจะมีสักภาพสองภาพ ซึ่งภาพที่ออกมาคงเน้นความเซ็กซี่ทางด้านสรีระมากกว่าจะส่อไปในทางอื่น ''เห็นอ้อยเขากล้าขนาดนั้น แต่เอาเข้าจริงๆ เรื่องถ่ายแบบที่เจาะจงว่าต้องโชว์สรีระที่สวยงาม และเซ็กซี่นั้น เขาคิดหนักเหมือนกันนะว่าเออถ่ายออกมาอย่างไรให้ดูเป็นศิลปะ เซ็กซี่จริงๆ เพราะหัวหนังสือก็แรงและเป็นหัวอันหนึ่งของเมืองไทย เอ่ยชื่อปุ๊บทุกคนต้องร้องอ๋ออย่างแน่นอน ตอนนี้ทุกอย่างค่อนข้างลงตัวหมดแล้ว ทั้งค่าตัวน่าจะหลักล้าน ส่วนในเรื่องสถานที่ถ่ายทำก็เป็นเกาะมันนอก ซึ่งเป็นเกาะเล็กๆ เกาะหนึ่งในอ.แกลง จ.ระยอง คาดว่าจะได้เห็นกันช่วงซัมเมอร์นี้ละ''

หม่ำ โดนหลอกฉี่แทบราด

หม่ำ โดนหลอกฉี่แทบราด ถูก 3พิธีกรรายการสาระแน วิลลี่-เสนาเปิ้ล-เสนาหอย หลอกให้ไปถ่ายสปอตโฆษณารณรงค์เมาไม่ขับ โดนอำจนขำไม่ออก ด่าเช็ด3พิธีกรคนดัง ไม่น่าทำกันได้ทั้งที่รักใคร่สนิทสนมกันมาก เผยทั้งโกรธทั้งเสียความรู้สึก และเสียใจ สะเทือนใจ เพราะเรื่องที่ถูกอำหวาดเสียวจนหัวใจจะวาย
รายการสาระแนเอาอีกแล้ว ชอบแกล้งชอบอำคน จนเกิดรายการฮาไม่ออก ล่าสุด "หม่ำ จ๊กมก" หรือเพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา นักแสดงตลกชื่อดัง เจอเข้าเต็มๆอีกราย โดนกลุ่ม 3 พิธีกรรายการสาระแน คือวิลลี่ แมคอินทอช เสนาเปิ้ล-นาคร ศิลาชัย และเสนาหอย-เกียรติศักดิ์ อุดมนาค แกล้งจนทำให้เสียความรู้สึก ถึงกับออกมาโวยลั่น
ทั้งนี้ หม่ำได้ออกมาแถลงข่าวถึงเรื่องที่ถูกหลอกให้ถ่ายสปอตโฆษณารณรงค์เมาไม่ขับ ทั้งที่เป็นเรื่องราวที่กุขึ้นมา ที่สตูดิโอเวิร์คพ้อยท์ เมื่อบ่าย 17 มี.ค. ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวได้สร้างความสะเทือนใจและอับอายแก่หม่ำจนเกือบหัวใจวาย ซึ่งนักแสดงตลกชื่อดังได้เล่ารายละเอียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างมีอารมณ์ว่า ตอนแรกทั้ง 3 คน ติดต่อมาบอกว่าเป็นการถ่ายโฆษณารณรงค์เมาไม่ขับ จึงตัดสินใจช่วย โดยไม่ได้คิดค่าตัวใดๆ ไม่ได้ถามรายละเอียดด้วยซ้ำว่าถ่ายให้หน่วยงานไหน กระทรวงไหน เพราะตนเห็นว่าเป็นงานพรรคพวกกันก็คิดว่าช่วยๆกันไป โดยมีคิวไปถ่ายทำแถวอำเภอองครักษ์ จังหวัดนครนายก เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ในฉากมีเนื้อเรื่องว่า ตนนั่งกินเหล้าอยู่จะขับมอเตอร์ไซค์กลับก็กลัวไม่ปลอดภัย จึงตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่ แต่พอขึ้นรถถึงได้รู้ว่าโดนหลอก เพราะคนขับแท็กซี่ขับรถแบบหวาดเสียวตลอดทาง ทั้งแกล้งชนบ้านคน จะชนท้ายรถคันอื่น ที่มีถังแก๊ส 10 ถังบรรทุกอยู่ และมีเสียงระเบิดตูมตามดังสนั่นหวั่นไหว ตนไม่รู้ว่าจะต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้ ถ้ารู้คงไม่ไป ตอนนั้นรับรู้แค่ว่าเป็นเพียงการถ่ายโฆษณาขึ้นแท็กซี่ ขนาดหนังเรื่องบอดี้การ์ด ที่มีเอฟเฟกต์ตนยังไม่เข้าไปใกล้ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้รู้สึกไม่พอใจ และหงุดหงิดมากกับกลุ่มสาระแน
"คนรักกันไม่น่ามาทำแบบนี้ ขนาดการแสดงในหนังยังใช้สตั้นท์เพราะเป็นคนขี้กลัว แล้วเอาตนมาทำอะไรผาดโผนแบบนั้นจะพูดยังไงดี ยิ่งเป็นคนใกล้ชิด มาทำกันแบบนี้ทำให้เสียความรู้สึก พอรถออกตนก็รู้เลยถูกหลอก โดนแกล้ง ในใจขณะนั้นอยากจะร้องจนเสียงหลง ฉี่จะราด แต่มันออกไม่ได้ มันจุกไปหมด จนถึงสุดท้าย 3 พิธีกรดังกล่าวได้ออกมาแสดงตัวทำท่าตลกขำๆ ตามสไตล์ แต่ทว่าตนไม่ตลกด้วยแล้ว" หม่ำกล่าวแบบงอนๆด้วยความไม่พอใจ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้ข่าวว่าจะฟ้องทั้ง 3 คน หม่ำกล่าวว่า ฝ่ายโน้นพยายามติดต่อมาเหมือนกัน แต่มันจะมีประโยชน์อะไร เรื่องเกิดไปแล้วเดือนกว่า ตนยังงอน จึงไม่อยากคุยด้วย เพราะสิ่งที่ทำกับตนมันเกินไป คนวงการเดียวกันแท้ๆ ส่วนที่ถามว่า จะเป็นทีมงานหนังหรือเปล่าตนไม่รู้ เพราะตอนแรกเขาไม่ได้คุยแบบนั้น มาเจอแบบนี้ตนรู้สึกไม่พอใจมาก ทั้งวิลลี่ หอย เปิ้ล โดยส่วนตัวก็ศรัทธาเขาอยู่แล้ว มีงานไหนของพวก 3 คนนี้ บ้างที่ตนไม่ไป เอ่ยปากมาตนไปทุกครั้ง เพราะเป็นคนวงการเดียวกัน จริงอยู่เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่เป็นเรื่องของจิตใจ เรื่องการฟ้องร้อง ตอนนี้พูดคุยกับทนายเอาไว้เหมือนกัน ถ้าฝ่ายโน้นไม่เข้ามาคุยด้วย เขาพยายามโทร.มาเคลียร์ แต่ตอนนี้ตนขี้เกียจรับสาย ไม่อยากคุยด้วย จะใช้วิธีไหนตนไม่รู้ ต้องหาวิธีมาคุยกันเองแล้ว หาตนให้เจอก่อนแล้วกัน
เมื่อถามว่า ทำไมถึงเพิ่งออกมาพูดตอนนี้ ทั้งที่เกิดเหตุการณ์ไปนานแล้ว หม่ำชี้แจงว่า ตั้งแต่วันเกิดเหตุ พอถ่ายเสร็จลงจากรถแท็กซี่ได้ ตนได้โวยวายและด่าทั้ง 3 คนยาวเหยียดประมาณครึ่ง ชม. หลังจากนั้นตนรีบขึ้นรถขับออกไปทันทีด้วยความไม่พอใจ ตอนด่าทั้ง 3 คน เขาก็ซึมไปเหมือนกัน แต่ในอารมณ์นั้นตนไม่ตลกด้วย พวกน้องไม่รักพี่เลย หากจะนำภาพเหล่านั้นใส่ลงไปในหนัง หรือออกอากาศด้วย คงเรื่องยาวเหมือนกัน ความจริงอยากให้พวกนี้มานั่งร่วมแถลงข่าวด้วย อยากจะถามกลับไปว่าทำไมทำกับตนแบบนี้ ทำไมทำกับตลกแถวหน้าอย่างนี้ อยากคุยต่อหน้าต่อคนเยอะๆ ให้มันชัดเจนกันไปเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า สิ่งที่ต้องการคือคำขอโทษใช่หรือไม่ หม่ำตอบว่า ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว รู้มาว่าเขาพยายามเข้าหาผู้ใหญ่ให้มาคุยมาเคลียร์กับตน แต่ลองคิดดูว่าคนรักกัน นับถือกันมาทำแบบนี้จะรู้สึกยังไง จริงๆ ก็รู้ รูปแบบรายการสาระแนจะหลอกดารา อุตส่าห์ระวังตัว พวกเขาตลก แต่เราไม่ตลกด้วย ยอมรับรู้สึก เสียหน้าเพราะเราไม่เคยโดนอะไรแบบนี้ ในรายการชิงร้อยชิงล้านเรารู้กันอยู่แล้ว แต่อันนี้ไม่รู้ ถามว่าเสียหน้าไหม ขอตอบว่าเสียหน้า จริงอยู่แม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ถ้า รถมันพลิกคว่ำจะทำยังไง ครอบครัวตนจะอยู่ยังไง ถามว่ารักมั้ยตนก็รักน้องๆ แต่น้องทำไมถึงทำกับพี่แบบนี้ ถ้ามีโอกาสเอาคืน ก็จะเผาเจ็ตสกีของเปิ้ล และเอาน้ำถังใหญ่ ใส่เฮลิคอปเตอร์ไปเทบ้านหอย ถ้าได้ร่วมงานกันตนจะเอาให้หนักเลย ทำเหมือนอย่างที่เขาทำกับตน ขนาดถ่ายหนังตนยังไม่กล้าเล่นกับเอฟเฟกต์ เพราะกลัวพลาด ถ้าเกิดอะไรขึ้นแล้วใครจะรับผิดชอบครอบครัวและลูกสาว กำลังจะเรียนจบปีนี้ กลัวจะไม่ได้เห็นหน้าลูก
ส่วนความสัมพันธ์ที่สนิทกัน จะมีผลกระทบหรือไม่นั้น หม่ำกล่าวว่า ต้องดูปฏิกิริยาและพฤติกรรมของพวกนี้ก่อน ขอเวลาสักพักตอนนี้ยังทำใจไม่ได้ ไม่อยากเจอ เพราะรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจ มันจุกเหมือนคนมีแผลเป็น ยังฝังใจอยู่และไม่อยากดูเทป รู้สึกอายตัวเอง ส่วนที่จะเป็นการโปรโมตหนังและรายการนั้น อันนี้ก็เป็นเรื่องของเขา ไม่เกี่ยวกับตน
ทางด้าน วิลลี่-เสนาเปิ้ล-เสนาหอย ผู้สื่อข่าวพยายามติดต่อไปยังผู้จัดการส่วนตัวและประชาสัมพันธ์ ปรากฏว่าไม่มีใครออกมาชี้แจงในสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างคนต่างปิดปากเงียบตลอดทั้งวัน และในวันที่ 18 มี.ค. วิลลี่ มีคิวบวงสรวงละครสูตรเสน่หา คาดว่าเจ้าตัวคงจะออกมาชี้แจงต่อสื่อมวลชนถึงเรื่องที่เกิดขึ้น

เพื่อนแฉ ปีใหม่ อัพยา แย่งแฟน

เพื่อนแฉ ปีใหม่อัพยา แย่งแฟน เลิกแฟนเก่ายังไม่ทันหาแฟนใหม่ได้ สาวเซ็กซี่ ปีใหม่-สุมนต์รัตน์ วัฒนาเศลารัตน์ ก็งานเข้าซะก่อน เมื่อโดนมือดีส่งอีเมล์และปล่อยภาพหลุดแฉว่า ปีใหม่ เนรคุณไปแย่งแฟนเพื่อนที่มีบุญคุณล้นหัว พอดีเจอ ปีใหม่ ในงานโทรทัศน์ทองคำ เลยล็อกตัวมาถามซะเลย “รูปพวกนั้นนานแล้วค่ะ แล้วผู้ชายคนนั้นก็ไม่ได้เป็นแฟนกัน ส่วนเรื่องของบุญคุณ เราเป็นเพื่อนกัน หากช่วยเพื่อนได้ก็ช่วย เวลาเค้าช่วยอะไรเราได้ก็ช่วย มันธรรมดา จะมาถือเป็นบุญคุณขนาดนั้นมันก็นะ” มีข่าวว่าไปแย่งแฟนเพื่อน “เข้าใจผิดมากกว่า คือทั้งผู้หญิงผู้ชายเป็นเพื่อนใหม่ทั้งคู่ วันนึงเค้าทั้งสองรู้สึกว่าไม่ใช่ เค้าต่างก็มาปรึกษาใหม่ เลยทำให้ฝ่ายหญิงเข้าใจผิด ใหม่ก็พยายามบอกเค้าแล้ว แต่เค้าก็ยังโกรธๆอยู่ ใหม่โดนข้อหาแย่งแฟนบ่อยมาก ครั้งที่แล้วก็เป็นพี่อั้มพี่ต๊อด ใหม่ ว่าให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ดีกว่า”

ข่าวว่าผู้ชายคนนี้ออกเงินให้ปีใหม่ไปทำนมด้วย? “อารมณ์เสียนะ (หัวเราะ) อันนี้น้ำพักน้ำแรงสุดๆ ไม่เคยขอเงินผู้ชายเลย ใหม่ทำงานเหนื่อยหาเงินเลี้ยงครอบครัวด้วยตัวเอง มาเม้าท์ยังงี้โกรธนะ” กับผู้ชายคนนี้ยังคุยกันมั้ย? “ได้คุยล่าสุดนานแล้วค่ะ ที่จริงก็ยังเป็นเพื่อนกัน” แล้วกับทางผู้หญิงล่ะ? “เค้าก็ยังโกรธอยู่ แต่ใหม่ก็พยายามบอกแล้วว่าความจริงยังไง คนไม่เชื่อทำยังไงก็ไม่เชื่อ อันนี้ก็พูดยาก เราทำดีที่สุดแล้ว ไม่ใช่เค้าทำดีกับเราฝ่ายเดียว” กลัวจะมีอะไรออกมาแฉอีกระลอกมั้ย? “ถ้าเค้าทำอะไรแล้วเค้าสบายใจก็ให้เค้าทำเถอะค่ะ แล้วดูกันต่อไป แต่ใหม่ไม่คิดว่าเพื่อนใหม่ทำ อาจเป็นคนอื่นที่ประสงค์ร้าย จริงๆแล้วก็ไม่รู้หรอกใครทำ ถ้าเค้าทำ ทำแล้วพอใจจบ ก็โอเค” มีแฉด้วยว่าปีใหม่อัพยาฯ? “รู้สึกว่าเกินไป เพราะคนเราเป็นเพื่อนกันไม่ว่าจะสิ่งที่เค้าพูดออกมา ใหม่ ไม่ได้บอกว่าจริงหรือไม่จริงนะคะ แต่ว่าความลับเค้า เราก็รู้ เรายังไม่เคยเอาความลับเค้ามาพูดเลยอ่ะ” แสดงว่าเรื่องที่เค้าแฉก็จริงสิ? “ไม่จริงขนาดนั้นหรอกค่ะ จริงบางเรื่อง ไม่จริงบางเรื่อง แต่ใหม่ยังไม่เห็นเมล์นั้นเลย” ในนั้นยังแฉอีกว่า ปีใหม่ เคยคุยๆกับโต๋-ศักดิ์สิทธิ์ด้วย แต่แม่โต๋ไม่ปลื้มเลยห่างไป “โต๋เนี่ยเป็นเพื่อนที่เรียนเอแบคด้วยกัน ใหม่อยู่ชมรมดนตรีเลยรู้จักกัน ไม่มีอะไร” เคยคบกันมั้ย? “ไม่มีขนาดนั้น” ถ้าโต๋มาจีบล่ะ “ไม่รู้สิคะ ให้เค้ามาจีบจริงๆก่อนสิ”...เอ้าโต๋จ๋า ผู้หญิงเค้าท้าแล้วนะ!

Monday, March 16, 2009

แท่ง'' คุยฟุ้ง หญิงไม่เคยขาดมือ

ถึงจะยังไม่มีตัวจริงเป็นชิ้นเป็นอัน แต่ยี่ห้อหนุ่มเจ้าคารมอย่าง ''แท่ง ศักดิ์สิทธิ์'' ก็ยังขยันตกเป็นข่าวกับสาวๆ ไม่เว้นแต่ละวัน เรียกว่าสาวๆ ไม่เคยขาดมือ ทั้งน้อง อ. น้อง จ. จริงใจแต่ยังไม่เห็นจริงจังกับใครซักคน เพราะพ่อปลาไหลอย่างแท่งยังไม่พร้อมให้ใครจับจ๊ะ
''ก็มีไปตามประสาล่ะครับ ก็รู้จักสาวๆ กุ๊กกิ๊กๆ กันเป็นธรรมดา ยังไม่ถึงขั้นที่พร้อมจะประกาศตัวอะไร แต่ถ้าวันนึงมั่นใจก็คงได้เจอกันแน่นอน ที่ผ่านมาผมอาจเลือกเยอะครับ ชอบง่าย แต่รักยาก'' จ้า...พ่อคนเจ้าคารม
อ่านหน้าต่อไปคลิก Older Posts