Tuesday, March 24, 2009

ลือหึ่ง อ๊อฟ ชนะพล ลืมกำพืด

ลือหึ่ง อ๊อฟ ชนะพล ลืมกำพืด งานเข้าอีกรายสำหรับพระเอกหน้าใหม่ที่กำลังไปได้สวย สำหรับหนุ่มอ๊อฟ ชนะพล สัตยา แต่ไม่วายมีข่าวเมาธ์มาว่าหนุ่มอ๊อฟนั้น เป็นพระเอกได้ไม่ทันไรก็ลืมกำพืดถึงขั้นไม่กล้าพูดสำเนียงใต้เสียแล้ว
ซึ่งกลายเป็นเรื่องเมาธ์กระฉ่อนแดนใต้ว่า ในงานอีเวนท์งานหนึ่งที่จัดขึ้นที่ใต้ได้มีการเชิญพระเอกหนุ่มคนนี้ไปร่วมงานด้วย ในฐานะที่ก็เป็นพี่น้องคนใต้คนหนึ่ง แต่ภายในงานนั้นปรากฏว่าหนุ่มอ๊อฟพูดสำเนียงกรุงเทพตลอดงาน เลยทำให้เกิดกระแสข่าวลือว่า หนุ่มอ๊อฟกลายเป็นพระเอกลืมกำพืดไปเสียแล้ว เพราะไม่ยอมพูดสำเนียงใต้เนื่องจากกระดากที่จะพูดเลยทีเดียว
งานนี้ร้อนถึงเจ้าตัวต้องออกมาชี้แจงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า "ผมเป็นคนใต้อยู่แล้ว ไม่เคยว่าไปที่บ้านแล้วไม่พูดใต้แต่มันอาจจะเหน่อหน่อย เพราะเรามาอยู่กรุงเทพเราก็พูดภาษากลาง เราต้องใช้เวลาในการปรับตัวนิดนึง มันเพี้ยน บางครั้งเราพูดเพี้ยนไปแล้วอายเขาทั้งที่เราเป็นคนใต้จริง ๆ ใช่ว่าผมไม่ยอมพูดนะ ผมก็พูด จริง ๆ แล้วเวลาอยู่ที่บ้านกับคุณพ่อคุณแม่ก็พูดภาษากลางอยู่แล้ว แต่กับเพื่อน ๆ พูดภาษาใต้ เราไม่อยากให้เพื่อนว่าเรากระแดะ"

ซึ่งหนุ่มอ๊อฟยืนยันว่า เจ้าตัวนั้นภูมิใจที่เป็นคนใต้ แล้วมีโอกาสได้เข้ามาทำงานในวงการบันเทิง เพราะก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ ที่ใครจะเข้ามาก็ได้ ย้ำไม่มีใครจะลืมถิ่นกำเนิดได้หรอก ก็ยังพูดได้เหมือนเดิม เพียงแต่อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเล็กน้อยเท่านั้น และแม้ว่าตัวเขาจะย้ายมาอยู่กรุงเทพแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม ตัวเขาก็ไม่ได้ลืมว่าพื้นเพแล้วเขาเป็นที่ไหน อย่างแน่นอน
สุดท้ายหนุ่มอ๊อฟได้แหล่งใต้อ้อนแฟน ๆ ว่า "อยากให้คนใต้ทุกคน การที่ผมกลับไปที่บ้านแล้วไม่พูดใต้ มันไม่จริงเลยครับ บางครั้งที่อ๊อฟอาจจะอายอาจจะเขิน เพราะอ๊อฟอยู่กรุงเทพหลายปีเหมือนกัน ก็เลยอาจจะเพี้ยน ก็อยากจะให้เข้าใจตรงนี้ด้วยครับ"

ขวัญ แหกตากลางอากาศ

ขวัญ แหกตากลางอากาศ เรียกได้ว่าเป็นเรื่องไฟลามทุ่งไปอีกรายสำหรับนางเอกหน้าหวาน "ขวัญ อุษมณี ไวทยานนท์" สำหรับกรณีล่าสุดที่มีข่าวว่าเปิดศึก "ตบคากองถ่าย" กับเพื่อนนักแสดง "ส้ม ณัฐวรา หงษ์สุวรรณ"
สำหรับข่าวนี้เรียกว่ายังไม่เคลียร์สักเท่าไหร่เลยเพราะบางกระแสก็ว่าเป็นการสร้างกระแสมากกว่า ในขณะที่อีกฝ่ายก็ว่าทั้งสองคนมีเรื่องตบตีกันจริง ๆ แต่แล้วจู่ ๆ ก็งานเข้าเสียอย่างนั้น เพราะเมื่อวานนี้ (24 มี.ค.) เกิดรายการ "แหกตาประชาชน" ออกอากาศกลางรายการ "ฟังหูไว้หู" ของคลื่น EFM เพราะสาวขวัญปล่อยให้พี่สาวมาสมอ้างเป็นตัวเองแล้วให้สัมภาษณ์แทน
ซึ่งทางรายการได้มีการติดต่อขอสัมภาษณ์สาวขวัญ อุษามณี เพื่อสอบถามถึงกรณีที่เป็นข่าวกับเพื่อนนักแสดงที่ว่ามีการทะเลาะตบตีกันจริงหรือไม่ทั้งนี้ทางทีมงานได้มีการติดต่อล่วงหน้ากับทางคุณแม่ของสาวขวัญไปแล้ว เมื่อถึงเวลาก็มีการสัมภาษณ์กันตามปกติ จนเมื่อจู่ ๆ ทางทีมงานได้รับการแจ้งว่าผู้ที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่นั้นไม่ใช่ขวัญ เพราะน้ำเสียงไม่ใช่ ทำให้ผู้ดำเนินรายการถามกลับสาวขวัญไปว่า "ไม่สบายหรือเปล่า เสียงดูแปลก ๆ ไป" ซึ่งปลายสายตอบกลับมาว่า "ใช่" ก่อนที่จะสายหลุดไปและไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย

ต่อมาดาราสาวขวัญ อุษามณี ได้ติดต่อกลับมาทางรายการพร้อมกับสารภาพว่า เมื่อสักครู่ที่มีการให้สัมภาษณ์นั้นไม่ใช่เจ้าตัว เนื่องจากเจ้าตัวไม่สบาย ไม่สามารถรับสายได้ ทั้งนี้สาวขวัญได้กล่าวว่าสำหรับเรื่องการให้สัมภาษณ์แทนนั้นเจ้าตัวอ้างไม่รู้เรื่องด้วย และไม่ได้ตั้งใจให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้น
ฟากทีมงานของทางสถานีวิทยุ "EFM" กล่าวว่านอกจากจะมีแฟนรายการโทรมาแจ้งความจริงแล้ว เมื่อวานนี้ได้เกิดกระแส "เอสเอ็มเอสกระจาย" เพราะมีแฟนรายการหลายร้อยคนจำน้ำเสียงได้ว่าไม่ใช่สาวขวัญตัวจริง ได้ส่งเอสเอ็มเอสเข้ามาต่อว่าหาว่าแหกตาคนฟัง

ต๊ะ ถูกด่าไม่แมนแซว

ต๊ะ ถูกด่าไม่แมนแซว "เอมมี่" หัวนมดำ ต๊ะ-วริษฐ์ รีบโร่ขอโทษฝ่ายหญิง แจงเป็นการทวนคำถามสื่อหลังไมค์ เปล่ามีเจตนาพูดว่าดาราสาว รับรู้สึกแย่และเครียดกับข่าวที่ออกมาจนผวากลัวการให้สัมภาษณ์ ลั่นต่อไปจะมีสมาธิคิดก่อนพูดมากกว่าเดิม

เกี่ยวกับกรณีที่ดาราหนุ่ม ต๊ะ-วริษฐ์ ไปพูดแซว เอมมี่-มรกต ว่าหัวนมดำ หลังฝ่ายหญิงเผลอทำจุกโผล่และให้สัมภาษณ์วอนสื่อแบบขำๆ ว่า หากจะรีทัชสติ๊กเกอร์ออกขอให้ทำหัวนมเป็นสีชมพู กระทั่งเจ้าตัวได้ยินคำพูดของฝ่ายชายเลยพูดเหน็บกลับว่า หัวนมจะสีอะไรก็ช่างเพราะไม่ได้เปิดให้ใครดูนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าต๊ะ-วริษฐ์ อีกรอบเลยเข้าไปสอบถามความรู้สึกที่ถูกเอมมี่พูดตอกกลับมา ดาราหนุ่มได้ขอแก้ต่างให้ตัวเองว่า

"ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกเราโทรไปคุยธรรมดาว่าโอเค.นะ เสร็จแล้วก็วางสายไป อีกวันก็เกิดเรื่อง วันงานครอบครูช่อง 3เราเป็นห่วงเขาเลยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นกำลังใจให้ คิดว่าเอมมี่ไม่ได้สร้างกระแสแต่คงเป็นอุบัติเหตุ มันก็จบไปแล้วก็มีพี่ๆ พูดแซวขึ้นมาว่า เอมมี่ไปทำชมพูมานะ เราก็....ดำด้วยเหรอครับ พูดไปไม่ได้คิดอะไรเพราะมันเป็นหลังไมค์ด้วย แต่เขากดเทปไปแล้ว พอเราพูดอย่างนี้มันเลยกลายเป็นเราดูไม่ดีไปเลย เราซีเรียสมากเพราะเขาเป็นผู้หญิง เราถูกมองว่าไม่แมนไม่ให้เกียรติเขา ซึ่งจุดประสงค์เราจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น สิ่งที่ออกมาเหมือนกับเป็นการทวนคำถามของผมว่า เฮ้ย....ไปทำสีมานะ ดำด้วยนะ เราก็ดำด้วยเหรอ มันเลยกลายเป็นไปกันใหญ่ โห...ตอนนี้หน้าหน้ามืดมากงงเลย"

"ผมรู้สึกแย่นะ เหมือนเราทำงานจบแล้วตรงนั้นแต่ยังมีเรื่องต่อไปอีก มันก็กังวลใจ ต่อไปนี้เวลาสัมภาษณ์เราก็กลัวเหมือนกัน กลัวจะพูดอะไรไปอีก ก็ถ้าเอมมี่เข้าใจผิดอย่างนั้นก็ฝากขอโทษน้องมี่ด้วยละกัน แต่เรื่องราวจริงๆ ก็อย่างที่เข้าใจกันว่ามันคืออะไร ไม่ใช่อยู่ๆ ผมจะไปบอกว่าเขาเป็นอย่างนี้ ผมต้องขอโทษเขาที่สื่อสารกันผิด ด้วยข่าวที่ออกไปอาจทำให้เขาดูไม่ดี ผมเครียดมากไม่อยากให้ออกมาเป็นอย่างนี้เลย"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหลังเกิดเรื่องได้โทรไปพูดคุยกับเจ้าตัว เพื่อชี้แจงความจริงบ้างหรือยัง พระเอกหนุ่มส่ายหน้ากล่าวว่า

"คือตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไร จนพี่นักข่าวเอามาให้ดูรูปว่ามีแบบนี้ เราดูโห....เป็นอย่างนี้เลยเหรอ พอสัมภาษณ์ผมก็บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เราเป็นห่วงเขานะ อีกแป๊บหนึ่งผมก็โทรหาเขา แต่เขาคงถ่ายละครอยู่เลยไม่ได้รับ พอจบไปอีกวันกลายเป็นเรื่องหนักกว่าเดิมอีก กลายเป็นไปว่าเขาอีก ทั้งที่เราเป็นห่วงเขามาก แต่เดี๋ยวผมคงต้องโทรไปหาเขาบอกว่าเรื่องราวความจริงมันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด เราเป็นเพื่อนสนิทที่ดีต่อกัน เขาเป็นคนตลกด้วย เขาชอบอำอะไรแบบนี้มา เราก็อำกลับ พอเห็นเขาซีเรียสก็ไม่อยากทำให้เขาเครียดมากขึ้น อยากให้เขาขำสนุกมากกว่า (กลัวเข้าหน้าเอมมี่ไม่ติดหรือเปล่า?) ไม่หรอก เราก็คุยกันประจำเรื่อยๆ ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว ผมก็ยังไม่รู้ว่าโทรไปเขาจะรับสายหรือเปล่า ถ้าเขาติดงานคงไม่รับ ถ้าว่างคงโอเค.มั้งครับ"

ได้บทเรียนอะไรจากการพูดครั้งนี้? "เมื่อไหร่ที่ปิดไมค์และกดเทปแล้วเราต้องมีสมาธิต่อไป โดยที่ไม่ต้องฟังอะไรแล้ว (หัวเราะ) มันแว่บเดียวจริงๆ ที่เขาพูดขึ้นมา เราก็ทวนคำถามกลับไปว่ามันเป็นอย่างนี้เหรอ ผมไม่ได้เจตนาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอย่างนี้ได้ยังไง"
อ่านหน้าต่อไปคลิก Older Posts