ถึงแม้จะมีคำอ้างของคนขวางโลกว่า “วันวาเลนไทน์” ก็ไม่ต่างจากวันอื่น แต่ถึงอย่างไรก็ยังเป็นวันที่มีความหมายของคนที่กำลังอินเลิฟ สำหรับ “คู่รักในวงการบันเทิง” ที่โดดเด่นที่สุด “ทีมข่าวบันเทิง” ขอยกให้คู่ของนางเอกวิก 7 สี นุ่น-วรนุช วงษ์สวรรค์ กับหนุ่มเนื้อหอมทายาทเบียร์สิงห์ ต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี วันนี้เราจึงได้นัดสัมภาษณ์พิเศษเพื่อ “วันแห่งความรัก” โดยเฉพาะให้ความสำคัญกับวันวาเลนไทน์แค่ไหน?
นุ่น “เป็นวันที่ทุกๆคนรู้สึกเหมือนคนพยายามพูดถึงวันนี้ อาจจะมีพิเศษ คงไม่ได้อะไรมาก”
ต๊อด แย้งทันที “นุ่นเป็นคนให้ความสำคัญกับวันพิเศษทุกเทศกาล ไม่ใช่วาเลนไทน์อย่างเดียว ปีใหม่ วันเกิด เข้าพรรษา คริสต์มาส เอาหมด ไม่ใช่แค่ผม เพื่อนๆก็ทวงหมด วันวาเลนไทน์ไม่เกี่ยวกับเพื่อนก็ทวงได้ เหมือนมีความสุขได้ของเล่น ไม่ใช่แค่ผมคนเดียว โดนทวงทุกคน” เป๊ง แค่ยกแรก! ก็ตี เอ๊ย ขัดคอกันซะแร้วว์
งั้นวาเลนไทน์ปีแรกสวีตมะ?
ต๊อด “ผมมาสายครับ” นุ่น เสริมว่า “วันวาเลนไทน์ ปีแรกที่เจอกัน เลยวันวาเลนไทน์ไปแล้ว ยังไม่ได้เป็นแฟน ที่ร้านกระเทียม วาเลนไทน์ปีนั้นต๊อดคงไม่ประทับใจ เพราะเพื่อนๆนุ่นเขม่นต๊อดหมดยกเว้นหนิง ทุกคนมองต๊อดเหมือนตัวประหลาด”
ต๊อด โวยลั่น “อันนี้มาเผากันเนี่ย! วันนั้นที่ผมไปสายเพราะผมเกร็ง คือไม่รู้จะไปในฐานะอะไร ผมก็คิดจะไปหรือไม่ไปดีก็เลยทำให้ลังเล พอไปถึงอย่างที่คิดเลย เจอกลุ่มเพื่อนเต็มเลย ผมทำตัวไม่ถูกเลย”
คบกันเพราะพี่ดู๋สัญญา เป็นพ่อสื่อหรือเปล่า?
ต๊อด “ไม่เกี่ยวเลยครับ เห็นหนังสือเขียนพี่ดู๋เป็นพ่อสื่อ ผมเลยตามเลย แต่ความเป็นจริงพี่ดู๋รู้หลังชาวบ้านอีก เลยมีอาการงอนนิดๆ ทำรายการด้วยกันและเป็นน้องด้วยกันทั้งคู่ แต่ไม่ยอมเล่าให้ฟัง พูดตามจริงผมชอบนุ่นมานานแล้ว (เป็นคำพูดจากใจที่ต๊อดเพิ่งพูดออกมาเป็นครั้งแรก นุ่นจึงนั่งหูผึ่ง ยิ้มแฉ่ง) ตอนนั้นผมเรียนเมืองนอก เห็นหนังสือเดอะบอย เป็นรูปนุ่น ก็ดูน่ารักดีแต่เขามีแฟน ก็ไม่ได้สนใจ วันแรกที่เจอกัน นุ่นไปงานประกวดมิสยูนิเวิร์ส จัดประกวดที่เมืองไทย ครั้งแรกที่เจอก็รู้สึกเค้าน่ารักดี” นุ่น พูดลอยๆ แซวตามลม “โกหกป่ะ?” ต๊อด “ตอนนั้นเขินมากที่บริษัทออกชาเขียวมาใหม่ ก็เดินเอาไปให้นุ่นชิม เนี่ยผมพยายามหารูปที่ถ่ายวันนั้นอยู่ แต่หาไม่ได้เลย อยากเก็บไว้เป็นที่ระลึกครับ ใครมีรูปนี้บอกหน่อย”
ถือว่านุ่นตรงสเปก
ต๊อด “สมัยเรียน ผู้หญิงในอุดมคติต้องผิวคล้ำ ตัวสูงกำลังดี ผมยาวสวย ตาโต ไปๆมาๆ หาไม่ได้ สรุปไม่มีสเปกหรอก สุดท้ายน่าจะเป็นความรู้สึกครั้งแรกที่ได้เจอมากกว่า เจอครั้งแรกคงไม่ใช่หลงรักเลย แต่คงเป็นเสน่ห์ ตอบไม่ได้นุ่นมีเสน่ห์ตรงไหน แต่ส่วนนึงคือเค้าน่ารัก มีความรู้สึกอยากคุย”
ไปๆมาๆ พัฒนาเป็นแฟนได้ยัง
นุ่น “คงจะเป็นช่วงที่นุ่นว่างแล้ว มีพี่คนนึงคุยงานกับนุ่นแล้วอยู่กับต๊อด เค้าก็บอกว่ามีคนชอบและอยากคุยด้วยนะ นุ่นคิดว่าเป็นแฟนละครก็คุยค่ะๆ ขอบคุณ แค่นั้นจบไป หลังจากนั้นก็มีแมสเสจมา นุ่นก็งงๆใครส่งมา ก็ส่งแมสเสจกลับไปว่าใคร ถามว่านานมั้ยกว่าคบกัน ศึกษากันอย่างที่นุ่นบอก คุยกันมาเรื่อยๆ 3 ปีแล้ว ก็มีบ้างที่ทนซึ่งกันและกัน ต๊อดทนนุ่นมากๆ”
ต๊อด “มันไม่เหมือนจีบ นัดกินข้าวครั้งแรกผมก็สายแล้ว (หัวเราะ) ตั้งแต่รู้จักกันนุ่นเป็นคนไม่ขี้วี้ด แต่เป็นคนนิ่ง อันนี้หนักกว่าวี้ดอีก อย่างน้อยผู้หญิงวี้ดเรายังมีเหตุผลเดินหนีได้ รับไม่ได้มาตะโกนอะไรแบบนี้ แต่เวลามีปัญหาไม่เข้าใจกันนุ่นจะนั่งนิ่งๆ ถามอะไรก็ไม่ตอบ ทีนี้คนที่จะบ้าคือไอ้คนนี้ (ต๊อดชี้ที่ตัวเอง) ไม่ตอบไม่พูดจะลุกก็ไม่ได้ด้วย พยายามเคลียร์ เค้าก็ไม่ฟัง ปิดทุกอย่าง ยกเว้นสายตาที่มองมา”
พอนุ่นคบต๊อดซึ่งเป็นหนุ่มเนื้อหอมรู้สึกยังไง
นุ่น “ถ้าถามเรื่องหนุ่มเนื้อหอมก็มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย ถามว่านุ่นมีคนเข้ามามั้ย ก็มี ทั้งนักแสดงและข้างนอก เราก็ให้เกียรติซึ่งกันและกันอยู่แล้ว...” ต๊อดหันขวับมามองทันที ก่อนพูดสวนขึ้นมา “ไม่เห็นเคยเล่าเลย” นุ่นหันมาตอบต๊อด พร้อมกับเล่าต่อ “บางทีมีเล่าให้ฟังต๊อดอย่างนี้ แต่ไม่ได้สนใจมาก ผู้ชายเจ้าชู้ ผู้หญิงเจ้าชู้ก็มีเยอะในสังคมบ้านเรา เพราะฉะนั้นต๊อดอาจไม่คิดอะไรกับใคร แต่คนอาจจะไปพูด นุ่นก็ให้เกียรติเขา ทุกวันนี้เวลาต๊อดให้สัมภาษณ์ถึงนุ่น เค้าก็ให้เกียรตินุ่นมาก”
ต๊อด “ผมเป็นคนขี้เล่น เวลาผมอยู่ในกลุ่มเพื่อนๆ หรือน้องๆของนุ่นผมจะเล่นเหมือนผมปกติ อาจจะเป็นพื้นฐานนิสัยขี้เล่น ขี้แหย่ นุ่นก็จะบอกว่าต๊อดอย่าไปเล่นกับคนอื่นยังงี้นะ คนอื่นจะคิดว่าผมไปชอบเขา ไปป้อใส่เค้า ซึ่งผมไม่ได้คิดอะไร นุ่นบอกเค้ารู้แต่คนอื่นไม่ได้คิดอย่างนั้น และที่นุ่นบอกอยู่ในวงการมีคนเข้ามาจีบเค้า ฉะนั้นก็มีความเสี่ยงเท่ากัน”
แอบหวง แอบหึง?
ต๊อด “เป็นปกติของทุกคนอยู่แล้ว ทั้งห่วง ทั้งหวง ทั้งหึง ผมว่ามันเป็นปกติ แต่อย่าให้เกินขอบเขต ให้เกียรติซึ่งกันและกัน ผมเป็นคนขี้หึงมาก (เน้นเสียงเข้ม) แต่นุ่นจะไม่ค่อยเล่าอะไรให้ฟัง อย่างนุ่นไปเล่นละครหอมแก้มคนอื่น ไม่มีผู้ชายที่ไหนไม่รู้สึกหรอก แต่ต้องทำความเข้าใจนี่คือการแสดง เขาจะอ้างมันคือการแสดงนะ ต๊อดก็เออๆเข้าใจ แต่อย่าให้ต๊อดไปแสดงกับคนอื่นบ้างก็แล้วกัน (ได้ฮาสิค้าบ...บ) อย่าให้ผมไปเล่นละครบ้างนะ (มีขู่!)” นุ่น เบรก “อย่าเลย เพราะต๊อดไม่ตื่นเช้า” แน่ะ รีบกันท่าเชียว!
ต่างคนต่างใช่คนที่ตนเองค้นหา
ต๊อด “ตอบยากนะ ถามว่าใช่มั้ย ผมตอบไม่ได้ แต่ ณ วันนี้ผมต้องการอะไรอีกมั้ย ต้องบอกว่าทุกวันนี้ชีวิตผมมีความสุขมาก มีงานประจำ มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีคนคอยให้กำลังใจ คอยดูแลซึ่งกันและกัน ถ้าตอบใช่ก็สามารถตอบได้ อย่างที่นักข่าวถามว่าตกลงวันนี้เป็นแฟนกันหรือยัง ผมไม่ได้มองว่าเป้าหมายจะเอานุ่นเป็นแฟน ต้องให้ได้เป้าหมาย ผมทำให้ทุกวันนี้มีความสุข”
ไม่ใช้คำว่าแฟนแต่ใช้คำว่าคบหาดูใจล่ะ?
ต๊อด “ใช่ครับ ทุกวันนี้ผมก็ไม่เคยเรียกนุ่นว่าแฟนหรือบอกสื่อนุ่นเป็นแฟน แต่ทุกคนเข้าใจผมกับนุ่นคบกัน ผมไม่ได้มองแฟนคือเส้นชัย ผมมองว่าความรู้สึกดีๆ ความรักคือเส้นชัยของผม เพราะฉะนั้นผมก็จะมีต่อๆไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ถึงเส้นชัยแล้วจบ ผมอาจจะคิดไม่เหมือนคนอื่น”
นุ่น “ถ้าในสายตาใครๆ เหมือนคนรักกันก็ใช่ เรียกว่าแฟนได้เหมือนกัน ตั้งแต่คบกันต๊อดไม่เคยเอ่ยปากขอเป็นแฟน คุยกันเรื่อยๆมากกว่า”
ใกล้ถึงจุดที่เราตัดสินใจแต่งงานหรือยัง?
ต๊อด “ชีวิตนี้ผมอยากแต่งงาน ไม่อยู่คนเดียวแน่นอน นั่นคือวัตถุประสงค์ของผมเลย (อมยิ้ม) อยากมีชีวิตครอบครัว ผมหลงใหลคำว่าครอบครัวอยู่แล้ว ผมอยากแต่ง แต่มาคิดอีกที ณ วันนี้ผมยังไม่สามารถดูแลตัวเองได้ 100% กับการดูแลใครอีกคนมันเป็นไปได้ยาก ช่วงนี้ผมให้ความสำคัญกับงานเป็นหลัก และการแต่งงานเป็นเรื่องละเอียด เป็นการตัดสินใจที่ยิ่งใหญ่ในชีวิต”
นุ่น “นุ่นยังมองเป็นเรื่องไกลตัว คงไม่ได้มองอนาคตที่ไกลมากๆ ทุกวันนี้เรามีสิ่งที่รับผิดชอบคือมีแพลนอะไรต่อไป ทุกวันนี้เวลาที่นุ่นกับต๊อดมีให้กันก็ไม่ค่อยตรงกัน ต๊อดทำงานประจำ ว่างเสาร์-อาทิตย์ แต่งานของนุ่นจะไปเรื่อยๆ บางทีเจอกันหลังต๊อดเลิกงาน หรือบางทีนุ่นว่างก็จะแวะไปหาต๊อดที่บริษัท” ต๊อดขัดคอ “แหม พูดฟังดูดีเชียว ขอบอกนับครั้งได้”
ต่างคนอยากให้อีกฝ่ายแก้ไขอะไรบ้าง
นุ่น “สำหรับนุ่นไม่ต้องการให้ต๊อดเปลี่ยนอะไรเลย แต่ต๊อดน่าจะดูแลตัวเองให้ดี บางทีเจอกลุ่มเพื่อนๆหนักไปหน่อย สุขภาพไม่ดี เขาจะบ่นกับนุ่นว่าปวดหัว คือไปเที่ยวไม่ว่าอะไร แต่อย่ามาบ่นให้ฟังนะ ตอนนี้ปิติบ่นในเฟสบุ๊กเรียกร้องคะแนนสงสารให้ทุกคนมาเม้นท์” ต๊อด แซวกลับ “รู้ไปโม้ด...ด”
ต๊อด “ที่น้อยใจนิดๆ คือเรื่องของเวลาว่างไม่ตรงกัน และในเรื่องของความนิ่งก็อีก ทุกวันนี้ผมยังงงๆอยู่เลย ถามว่าการที่นุ่นนิ่งเขาสร้างเกราะกำบังให้ตัวเอง ไม่ฟัง ไม่พูด ไม่มีสายตาตอบสนอง คนเราถ้าโกรธจะมีออกมาสักทาง ผมไม่สบายใจนอนไม่หลับ ต้องพูด บางครั้งพูดก็ยอมทะเลาะ ให้มีความรู้สึกไม่ดีต่อกันอย่างน้อยผมพูดกับเขาเสมอ มีเกราะเป็นส่วนก็ดี แต่บางทีมีมากเกินไปจะเป็นความเครียด ความกดดัน ไม่มีการปรับความเข้าใจกัน สุดท้ายจะระเบิด วันนึงผมอาจรับไม่ได้มันก็หนัก แต่จะให้นุ่นโวยวายๆ ผมก็รับไม่ได้เหมือนกัน โวยวาย หยิก ทุบตี ผมรับไม่ได้ แต่ทุกอย่างอยู่ด้วยเหตุผล มันอาจจะเข้าใจไม่ตรงกัน มุมไม่ตรงกันยังปรับความเข้าใจกันได้ มีความสุขได้โดยไม่ต้องคาดหวัง แค่ไปกินข้าวด้วยกันมีความสุขแล้ว อย่าไปแสวงหาที่มันไกล มันยาก เล็กๆน้อยๆก็มีความสุขได้”
พอเริ่มเปิดตัวคบกัน ไปไหนด้วยความสบายใจมากขึ้น
ต๊อด “ผมว่าคนจะมากดดันเรื่องแต่งงานสิครับ (หัวเราะ) จริงๆเรื่องไปไหนไม่ได้สนใจ ที่เพิ่งโดนแอบถ่ายแสดงว่าเพิ่งเจอ เรื่องดูหนังก็ไป แต่เขาถ่ายไม่เจอ ค่อนข้างใช้ชีวิตปกติ แต่ระวังมากขึ้น สังสรรค์กับเพื่อนก็ยังมีเหมือนเดิม แต่บางครั้งเข้าไปทักผู้หญิงก็เป็นข่าว จนช่วงปีหลังๆน้อยหน่อย เคยนะปีเดียวผมมีข่าวกับผู้หญิง 14 คน แฟนคลับนุ่นเช็กมาให้ ผมถึงบอกเปลี่ยนการใช้ชีวิตผมไม่เปลี่ยน แต่ระวัง”
การคบกัน ยอมรับกัน คือการให้เกียรติกัน
นุ่น “เมื่อก่อนจะยอมรับคุณต้องเปิดให้หมดนะ ไม่ใช่เปิดทีละนิดๆ”
ต๊อด ได้ทีแซวนุ่น “ตัวเองบอกตัวเองจะปิดอยู่เลยไม่ใช่เหรอ (หัวเราะ) แต่ผมเชื่อคำสอนของพี่ที่นับถือคนหนึ่งที่บอกว่า ต้องคุมผู้หญิงให้อยู่! (หัวเราะ)” นุ่น ถึงกับร้อง หืม...ม ก่อนย้อนถามเสียงเข้ม “คุมอยู่มั้ย?”!!
