Wednesday, October 13, 2010

พิ้งกี้แถลงข่าว ลาออกจากวงการ

สรุป 'พิ้งกี้' งดพูดถึงเป๊ก รับคลิปเสียงกระทบครอบครัวทุกฝ่าย ไม่ลาวงการ แค่พักงานแสดง จะเรียนเต้นเพิ่ม ปลายปีมุ่งงานอินเดีย
“พิ้งกี้” แถลงยันไม่ลาวงการบันเทิง ยันแค่พักงานไปหาความรู้เพิ่มเติม ยันไม่ได้โดนบีบแต่ขอถอนตัวเองเพราะไม่อยากให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ อนาคตข้างหน้ากลับมาร่วมงานกับช่อง 3 อีก ส่วนเรื่องคลิปเสียงเป็นเมียน้อยจริงหรือไม่ เจ้าตัวตอบไม่ทราบ เผยทำดีที่สุดแล้ว หลังจากที่คลิปอื้อฉาวรักสามเส้าหลุดว่อนอินเตอร์เน็ต ด้าน “ธัญญ่า” ธัญญาเรศ เองตระกูล ก็ได้ออกมายอมรับว่าเป็นเสียงของตนทะเลาะกับสามี “เป๊ก สัณชัย เองตระกล” ยืนยันว่า ไม่ได้เป็นคนปล่อยคลิปแต่ที่ถูกเผยแพร่ออกไปน่าจะเกิดจากการขายโทรศัพท์มือถือเครื่องเก่า ส่วนเป๊ก สัณชัยนั้นเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมาก็ได้เดินทางไปแจ้งความให้ดำเนินคดีกับมือปล่อยคลิป พร้อมทั้งเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดว่าเป็นเพียงอดีต และได้กล่าวขอโทษทุกๆ คนที่เกี่ยวข้อง ยอมรับความผิดไว้แต่เพียงผู้เดียว เหลือก็แต่เพียง “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” นางเอกสาวที่มีชื่อระบุในคลิปที่ยังไม่ได้ออกมาเคลียร์ตัวเอง ท่ามกลางกระแสข่าวว่า พิ้งกี้อาจจะถูกปลดออกจากต้นสังกัดค่ายทีวีซีนเพราะข่าวอื้อฉาวดังกล่าว ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้เดินทางมาร่วมงาน "เวสป้าเลิฟเวอร์" ที่คัลเลอร์ เฟรม สตูดิโอ ย่านถนนวิภาวดีรังสิต พอการแสดงโชว์ของพิ้งกี้เสร็จสิ้นลง เจ้าตัวก็ออกมาแถลงข่าวถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด “กี้พึ่งกลับจากอินเดียไปคุยกับพี่ปิ่นทราบแล้ว เพราะมีคนส่งทางบีบีว่ามีอะไรเกิดขึ้น ส่วนความสัมพันธ์ที่ในคลิปกี้ไม่ทราบ เพราะพิ้งกี้ไม่ได้ทำอะไร แต่ยอมรับเป็นเสียงกี้เอง ที่กี้พูดเพราะว่าบริสุทธิ์ใจ เรื่องเกิดมานานมากแล้ตั้งแต่แรกๆ เลย ที่ไปเคลียร์กัน ตอนนั้นบริสุทธิ์ใจจริงๆ” เรื่องเท็จจริงเป็นอย่างไร ? “ไม่รู้ไปถามคนที่เคารู้ เพราะไม่สามารถตอบอะไรได้มากมาย พูดได้เท่าที่ได้ เค้าไม่ได้พูดต่อหน้าพี่ๆ พูดในโทรศัพท์” กับเรื่องที่ถูกพูดพาดพิงกล่าวหา ? “เท่าที่กี้ตอบ ยังไงก็ยังงั้น ไม่ทราบว่าคลิปไหนก็ได้ฟังเท่าๆ กับทุกคน เรื่องไปนอนด้วยกันไม่ทราบ ไม่ทราบจริงๆ ไปถามคนที่เค้าพูด ก็ได้ทราบพร้อมกับนักข่าว ไม่ทราบว่ามีไรเกิดขึ้น” คลิปนั้นได้คุยกันนานแค่ไหน ? “ ไม่ทราบเพราะมันนานแล้ว ประมาณ 3 เดือน” กระแสแรงค่อนข้างแรง ? “ขอขอบคุณทุกกำลังใจที่มีให้ ปิ่น ช่อง 3 สิ่งไหนที่พูดได้ขอโทษประชาชนที่ไม่เข้าใจ ไม่อยากมีปัญหาเกิดขึ้นอีก ทุกคนมีครอบครัวที่ต้องดูแล อย่าเอากี้ไปเกี่ยข้องกับใคร ตอนนี้แอบปี้ จบดีกว่า” เรื่องโดนปลด ? “กี้ได้คุยกับพี่ปิ่น พี่ปิ่นรับรู้ข่าวเยอะมาก กี้ไม่อยากให้ผู้ใหญ่ลำบากใจ มีเรื่องเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ฉะนั้นขอพักงานการแสดงของกี้ ไปทำอะไร ไปใช้ชีวิตสงบ ซักพักหนึ่ง ค่อยกลับมาทำ งานกี้ก็มีต่อไปอินเดีย อีเว้นท์ เดินแบบ" เบรกงานเองหรือผู้ใหญ่สั่ง ? “ผู้ใหญ่ถามเอาไง เพราะหนักมาก ทุกคนได้รับผลกระทบหมด กี้อยากมีความสุขสบายๆ ยืนยันว่าไม่ลาออกจากวงการ พักกะว่าไปเรียนเต้น ภาษาที่อินเดีย ทุกอย่างขอฝึกฝนก่อน งานที่รับไว้คอนเสิร์ตถ่ายแบบบ้าง นอกนั้นก็ไม่มีอะไร ตอนนี้งานเสร็จหมดแล้วทุกอย่าง” ยกเลิกงานที่เมืองไทย ? “ตอนนี้ไม่มีงานระยะยาว ขอเวลาพัก พักเรื่อยๆ ไม่มีระยะเวลา อยากทำอะไรที่ทุกคนไม่ต้องลำบากใจ เราเองก็จะมีความสุข” งานนี้เป็นงานสุดท้ายของกี้ที่เมืองไทยหรือไม่ ? “ไม่ใช่ ยังมีคอนเสิร์ตของพอนด์ สำหรับงานช่อง 3 มีตอนนี้แค่พักงานแสดงเฉยๆ” กดดันเครียดขนาดไหน ? “ทั้งหมดพูดได้ดีที่สุดแล้วขอให้ทุกคนเข้าใจ ชีวิตอย่างดีก็ตาย ส่วนพี่เป๊กก็ทราบว่าไปแจ้งความแต่ตอนนี้ไม่ได้พูดคุยกันแล้ว” ไปเปิดใจในรายการวู๊ดดี้ ? “อัดรายการก็มีการพูดคุยเรื่องนี้ และทุกคนก็จะได้เห็นการทำงานของกี้ที่อินเดีย จะไปอินเดียปลายปี อยู่นานไหม ไม่รู้ต้องดูก่อน ประชาชนเยอะมาก จะเปิดตัวที่นั่นเดือนธันวา” จบไหมกระแสข่าวต่าง ? “จบแล้วไม่รู้จะพูดยังไง” “เป๊กขอโทษกี้ว่าไง” (ไม่ตอบยกมือไหว้) “กี้ไม่เคยคิดลาออกจากวงการเพราะเป็นนักแสดง อยากทำให้มีความสามารถให้มากขึ้น อยากพัฒนาไปเรื่อย เอาเวลาว่างตอนนี้ไปพัฒนาความสามารถ” รู้ไหมถูกอัดเสียง ? (ส่ายหน้า) “จะดำเนินการยังไงไม่ทราบ ยังไม่ปรึกษากับครอบครัว เพราะมันก็ผิดกฎหมายอยู่ ก็รอดูต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น” อยากพูดอะไรถึงเปกบ้าง ? “ไม่อยากพูดอะไรแล้วจริงๆ อยากให้จบ” พ่อแม่ว่าไง ? “เรื่องนี้ผิดกฎหมายอยู่แล้วครอบครัวไหนก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน จะตัดสินใจอะไรก็ต้องคุยกันรวมๆ เพราะเป็นครอบครัวใหญ่ ญาติโทรมาเต็มมันเป็นเรื่องใหญ่มาก ทุกคนเป็นห่วง อยากให้ทุกคนเห็นใจซึ่งกันและกัน” ฝากอะไรถึงธัญญ่าไหม ? “ไม่ขอพูดถึง” แต่สังคมพิพากษาเป็นมือที่สาม ? “พูดได้เท่าที่พูดตามนี้ เรื่องผ่านไปนานแล้ว ทำดีที่สุดตอนนี้แค่นี้ อะไรจะเกิดขึ้นไม่ทราบ ทุกคนในวงการก็มีคนเป็นห่วงตลอด บีๆ มาถามตลอด ตอนนี้กี้ยังอยู่เมืองไทย อาจไปเรียนนาฎสินที่อินเดียบอกไม่ได้ว่าเมื่อไหร่ เอาทีละสเต็ปหลายอย่างรุม สำหรับทางช่องทุกคนดีมาก ไม่อยากให้ทุกคนลำบากใจ ต่อไปในภายภาคหน้าก็อาจกลับมาร่วมงานกับปิ่นเหมือนเดิม” ถ้ากลับมาสังคมยังไม่ยอมรับ ? “กี้คิดว่าเคลียร์กำลังใจมี พูดอะไรมากไม่ได้ ก็ทำให้ดีที่สุด ตอนนี้ก็ยังไปไหนมาไหนได้อยู่” ยืนยันว่าเป็นคนถอนตัวจากละครไม่ใช่โดนปลด ? “กี้เป็นคนคุยกับพี่ปิ่นขอถอนตัวเมื่อเช้า เคลียร์กันจบเรียบร้อย ขอไปพักผ่อน มีข่าวว่าเรื่องบ้านที่เขาใหญ่กี้จะเอาซึ่งเป็นสินสมรสของเป๊ก-ธัญญ่า ? “ไม่ทราบ ไม่เคยไปขอบ้านเค้า” รู้สึกอย่างไรคนกล่าวหาว่าเป็นเมียน้อย ? “รู้สึกบอบช้ำ ทุกคนบอบช้ำ ก็ขอบคุณกำลังใจทุกคนทุกๆ อย่างที่กี้ได้พูดไป พูดชัดเจนที่สุดแล้ว”

แม่พิ้งกี้ ประกาศ พิ้งกี้ลาออกจากช่อง 3

กลายเป็นข่าวดังกลบกระแสข่าวบันเทิงอื่น ๆ ไปโดยทันที เมื่อเกิดมีคลิปเสียงดาราสาว ธัญญ่า ธัญญาเรศ เองตระกูล พูดคุยกับสามี เป๊ก สัณชัย เองตระกูล แถมยังพาดพิงไปถึงนางเอกสาวนัยน์ตาคมอย่าง พิงกี้ สาวิกา ไชยเดช ที่ก่อนหน้านั้นมีข่าวลือว่า มีความสัมพันธ์กับหนุ่มเป๊ก หลุดออกมาว่อนอินเทอร์เน็ต แถมคำพูดแต่ละคำก็ช่างถึงพริกถึงขิงเสียเหลือเกิน งานนี้ทำเอาฝ่ายที่เกี่ยวข้องนั่งเก้าอี้ไม่ติดไปตาม ๆ กัน ล่าสุดวันนี้ (13 ตุลาคม) เป๊ก สัณชัย ได้เดินทางไปแจ้งความที่กองปราบ เอาผิดผู้ที่ปล่อยและเผยแพร่คลิปเสียง และปฏิเสธข่าวตั้งค่าหัวล่าตัว 5 แสนบาท พร้อมกันนี้ยังเตรียมบินไปหาธัญญ่า ที่สหรัฐอเมริกา เพื่อเคลียร์ปัญหาเรื่องดังกล่าวกับสาวธัญญ่า ทางด้านนายสมเกียรติ คุณานิธิพงศ์ ผู้จัดการส่วนตัวของสาวธัญญ่า นั้น ได้ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ธัญญ่าพักอยู่กับลูกสาวที่รัฐอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยตนเพิ่งได้คุยกับธัญญ่าเมื่อ 3-4 วันก่อนที่จะมีคลิปเสียงหลุดออกมา ทราบว่า ทั้งเป๊กและธัญญ่ายังรักกันดี แต่หลังจากมีประเด็นเรื่องคลิปเสียง ตนพยายามติดต่อธัญญ่า แต่ก็ยังไม่ได้คุยกันคาดว่า คลิปเสียงหลุด เพราะธัญญ่าส่งโทรศัพท์แบล็กเบอร์รี่กลับมาขายที่เมืองไทย แล้วมีคนกู้ข้อมูลกลับมา พร้อมยืนยันว่า ธัญญ่าไม่ได้ปล่อยคลิปเสียงแน่นอน และข่าวลือที่ว่า ธัญญ่า จะลาวงการก็ไม่เป็นความจริง เพราะยังมีงานละครจ่อคิวรออยู่อีกหลายเรื่อง ขณะที่นายสมรักษ์ ณรงค์วิชัย ผู้บริหารฝ่ายผลิตรายการของช่อง 3 ที่เดินทางไปอัดรายการราตรีสโมสร ที่สตูดิโอโพลีพลัส ไม่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นสาวพิงกี้ โดยได้แต่ยกมือไหว้ เพื่อแสดงความขอโทษที่ไม่สะดวกให้สัมภาษณ์ ทั้งนี้ สาวพิงกี้ ซึ่งเดิมจะมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันนี้ ได้แจ้งเลื่อนการเดินกลับไปอีก 1-2 วัน เพราะติดถ่ายซ่อมงานที่ประเทศอินเดีย ซึ่งคาดว่า หลังจากเดินทางกลับมาแล้ว จะได้เข้าปรึกษากับผู้จัดละครเรื่องเงาพราย เพื่อหาข้อสรุปที่ชัดเจนอีกครั้ง แต่ทว่าล่าสุด นางสรินยา ไชยเดช แม่ของนางเอกสาวพิงกี้ ให้สัมภาษณ์ว่า ลูกสาวขอลาออกจากช่อง 3 แล้ว เพื่อไม่ให้ผู้ใหญ่ในช่องต้องคอยนั่งตอบคำถามเรื่องนี้ โดยช่วงเวลาต่อจากนี้ ลูกสาวจะไปเรียนเต้นรำและภาษาเพิ่ม และจะย้ายไปทำงานที่อินเดียเป็นหลัก หากวงการบันเทิงไทยไม่ต้อนรับ ทั้งนี้จะไม่ฟ้องร้องผู้ที่เผยแพร่คลิปเสียงดังกล่าว เพราะอยากให้เรื่องจบลงโดยเร็ว เนื่องจากลูกสาวเครียดมาก ฟาก ปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ บิ๊กบอสค่ายทีวีซีน เผยว่า ได้รับทราบเรื่องที่ พิงกี้ ขอถอนตัวจากละครเรื่อง "เงาพราย" แล้ว เนื่องจากสภาพจิตใจไม่พร้อมในการทำงาน ทั้งนี้ หาก พิงกี้ พร้อมจะกลับมาเมื่อไหร่ ทางค่ายก็ยินดีต้อนรับ
ด้านปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ ผู้จัดละครค่ายทีวีซีน ที่ดึงพิ้งกี้มาเล่นละครเรื่องเงาพราย เป็นเรื่องแรกให้ช่อง 3 กล่าวว่า ทางนางเอกสาวได้มาขอถอนตัวออกไปเอง เนื่องจากไม่มีจิตใจสมาธิที่จะถ่ายทำละครในช่วงนี้ โดยนางเอกสาวจะใช้เวลาต่อไปนี้ไปเรียนภาษาและเต้น ซึ่งตนเห็นว่าเป็นเรื่องดี ตนไม่ได้ปลดพิ้งกี้ และถ้านางเอกสาวพร้อมจะกลับมาเมื่อไหร่ก็ยินดีต้อนรับเสมอต่อข้อถามว่า สภาพของพิ้งกี้ตอนที่เข้ามาคุยเป็นอย่างไรบ้าง ปิ่นกล่าวว่า เขาเครียดมาก พูดไปก็เริ่มตาแดงๆ แต่ตนก็พยายามเบรกไม่ให้เขาร้องไห้ ปลอบเขาว่าเอาไว้เริ่มต้นกันใหม่ ยังแนะนำด้วยว่าให้พูดให้น้อยที่สุด ตนให้แง่คิดกับเขาไปหลายอย่าง เช่น จำไว้ว่าเราไม่สามารถไปกำหนดให้ได้ว่าทำไมถึงคิดอย่างนั้นเขียนอย่างรี้ เพราะตัวเราเองยังบังคับตัวเองไม่ได้เลย ฉะนั้นอะไรก็ตามขึ้นอยู่กับตัวเราเองว่าทำตัวอย่างไร ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะตัวเราเองก็ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเองผู้สื่อข่าวถามว่า จนถึงตอนนี้พิ้งกี้ยืนยันว่าเลิกยุ่งกับฝ่ายชายใช่ไหม ผู้จัดคนเก่งกล่าวว่า เขายืนยันกับตนมาตลอดตั้งแต่ตอนเซ็นสัญญา อย่างวันนี้เขาก็พูดอีกอย่างหนักแน่นว่าไม่ได้ยุ่งแล้วจริงๆ ถามว่ายังคุยกันอยู่ไหม คงเป็นทางคุณแม่มากกว่าที่จะคุยกับฝ่ายชายเพราะทางนั้นโทรมา แต่ไม่ได้คุยกับน้องแน่นอน ซึ่งคุณแม่ของน้องบอกด้วยว่าได้บอกทางนั้นไปแล้วว่าอย่ามาเกี่ยวข้องอะไรอีก เลย เพราะอนาคตของน้องต้องพังลงเพราะเรื่องนี้ ได้ฟังที่คุณพ่อคุณแม่กับเขาพูดแล้วตนรู้สึกสงสาร อยากให้ทุกคนให้กำลังใจเขาด้วย

Monday, October 11, 2010

ปิ่น” บอสทีวีซีน รับ ปวดหัวเรื่องคลิปเกี่ยวกับ “พิ้งกี้”

“ปิ่น” บอสทีวีซีน รับ ปวดหัวเรื่อง “พิ้งกี้” เผย ฟังคลิปแล้ว รอเจ้าตัวกลับจากอินเดียจะเรียกคุย ลั่น หากเป็นเพียงเรื่องในอดีตตนพร้อมจะมองข้ามและให้โอกาส แต่ถ้าจับได้ว่ายังแอบคบ “เป๊ก” อยู่ก็ไม่เลี้ยง พร้อมเผย “ธัญญ่า” โทร.มาระบายแต่ไม่เคยด่าพิ้งกี้ให้ฟังทั้งที่สนิทกัน ยอมรับ ลำบากใจต้องเป็นคนกลาง แต่เชื่อที่ทั้งคู่ทำไปแค่ต้องการปกป้องตัวเอง ไม่จงใจทำลายอีกฝ่าย ด้านผู้บริหารช่อง3 ปัดยังไม่ฟังคลิป จึงยังไม่อยากลงดาบใคร มีข่าวฉาวโฉ่ไม่หยุดหย่อน สำหรับนางเอก “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” อุตส่าห์ ย้ายมาอยู่ช่อง3 ยังไม่ทันจะมีผลงานละครก็เจอสกัดดาวรุ่งซะแล้ว หลังมีมือดีปล่อยคลิป(เสียง)รักสามเส้าสุดอื้อฉาว ประจานความสัมพันธ์ของพิ้งกี้กับ “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” สามีของสาว “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” ออกมาเป็นพรวนตอกย้ำกระแสข่าวลือที่ผ่านมา งานนี้ทำเอา “ปิ่น ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์” บอสใหญ่แห่ง ค่ายทีวีซีน งานเข้าไปเต็มๆ ในฐานะที่เป็นคนเอาพิ้งกี้มาเซ็นสัญญา แถมยังให้ประเดิมละครของค่ายเรื่อง “เงาพราย” เป็นเรื่องแรก ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดใจว่า ปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องถามความจริงจากปากพิ้งกี้ก่อน แต่ตอนนี้ยังตัดสินใจอะไรไม่ได้เพราะอีกฝ่ายยังอยู่ที่อินเดีย พร้อมบอก พิ้งกี้ปฏิเสธไม่เคยคบ “เป๊ก” ก่อนแจง หากเรื่องนี้เกิดขึ้นก่อนที่นางเอกสาวจะย้ายมาอยู่ช่อง3 ตนก็ยินดีจะมองข้ามและให้โอกาส แต่ถ้าหากปัจจุบันทั้งคู่ยังแอบคบกันอยู่ ตนก็คงไม่เลี้ยงไว้เช่นกัน “ตอนนี้พี่ปวดหัวมากเลย(หัวเราะ) ยังไม่มีคำตอบใดๆ ทั้งสิ้น ตอนนี้พี่ได้ฟังแค่คลิปเดียวคือเป๊กกับธัญญ่า นอกนั้นยังไม่ได้ฟังเลย แต่ได้ยินข่าวแล้วว่ามีคลิปออกมาว่าไปเชียงใหม่(พิ้งกี้กับเป๊ก)อะไรนั่นใช่ มั้ย …ถ้าถามความรู้สึกจริงๆ พี่ก็ไม่คิดว่ามันจะเยอะแยะขนาดนี้ไง หมายถึงเรื่องมันน่าจะจบไปได้แล้ว แต่ทำไมมันยังไม่จบ เพราะเรื่องที่มันเกิดมันไม่ใช่ปัจจุบันไง แล้วคลิปก็ผ่านมาแล้วเป็นเดือน บางคลิปก็นานกว่านั้น แต่ทำไมไม่จบ” “ธัญญ่าก็เล่นละครกับ พี่มาหลายเรื่องก็สนิทกัน ส่วนพิ้งกี้ก็เพิ่งมาเล่นละครกับพี่ เพราะฉะนั้นเนี่ยต้องเจอตัวแล้วคุยกัน ก็ไม่รู้ว่าข่าวนี้มันจะอยู่อีกนานเท่าไหร่ ถ้าสมมุติว่าปัจจุบันเขายังคบหากันอยู่(พิ้งกี้-เป๊ก)พี่ก็ไม่เห็นด้วย แต่ถ้ามันเป็นเรื่องในอดีตแล้ว มันก็ต้องมาคุยกันอีกทีนึงว่ายังไง เพราะมันเป็นเรื่องที่ผ่านมานานแล้ว มันไม่ใช่เรื่องปัจจุบัน ปัจจุบันเขามาอยู่กับพี่แล้ว มาทำงานร่วมกับพี่แล้ว ได้คุยกันแล้วว่าจะไม่มีเรื่องราวแบบนี้เกิดขึ้นอีก แล้วมันยังเกิดขึ้นอีกอันนั้นมันก็เป็นอีกกรณีนึงถูกมั้ย แสดงว่าผิดสัญญากับพี่ แต่ว่าถ้าเรื่องมันเกิดเมื่อ 6 เดือนที่แล้ว หรือ 5 เดือนที่แล้ว ซึ่งเขายังไม่ได้เข้ามาอยู่กับพี่ พี่จะเอาเรื่องอดีตมาบั่นทอนปัจจุบันมันก็ไม่ใช่” “คนเรามันอาจจะผ่านเรื่องราวทั้งผิดทั้งถูกก็ได้ แต่ว่าเราจะไปบอกว่าเมื่อปีที่แล้ว เมื่อ 3 ปีที่แล้วคุณไปอย่างโน้นคุณไปอย่างนี้ อ้าว…ก็มันผ่านไปแล้วอ่ะ มันไม่ใช่ขณะนี้ที่ดูแลอยู่ เพราะฉะนั้นตรงนี้มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มันต้องคุยกัน มันต้องมีการประมวลเหตุการณ์ แล้วก็สรุปโดยหลายๆ ฝ่าย พี่ไม่สามารถที่จะตัดสินใจได้คนเดียวว่า คุณทำแบบนี้ไม่เอาแล้ว หรือเอาหรือไม่เอา มันไม่ใช่ไง มันก็ต้องให้โอกาสที่จะได้คุยกัน” “ถ้าเป็นเรื่องทำนองแบบนี้พี่ไม่เคยสนับสนุนอยู่แล้ว ในการที่จะไปเป็นมือที่สาม ทีวีซีนหรือตัวพี่ไม่เคยสนับสนุน หรือเด็กพี่ที่ดูแลอยู่ก็ไม่เคยมีประวัติแบบนี้ ไม่เคยแม้แต่จะไปเจ้าชู้ หรือไปกินเหล้าเมายา เราพยายามที่จะว่ากล่าวตักเตือนหรือให้สติเขาตลอดเวลา ทีนี้เนี่ยพิ้งกี้เพิ่งมาอยู่กับเรา เราก็ต้องมาปรับมาจูนเข้าหากัน ซึ่งก็ต้องมาดูกันว่าจะจูนกันได้อย่างไร แต่ ขอเวลาพี่นิดนึง ขอคุยกับน้องก่อน เพราะตอนนี้ยังไม่กลับมายังอยู่ที่อินเดีย ถ้าได้คุยกันแล้วคงมีอะไรที่ชัดเจนกว่านี้ เท่าที่รู้ตอนนี้น้องก็ไม่สบายใจมาก เขาเองก็ยืนยันว่าไม่ได้คบหา ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว เขายืนยันอย่างนั้น พี่ในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ก็ต้องให้โอกาสกับเด็ก เขาเองก็ไม่สบายใจมาก เรื่องแบบนี้มันไม่ใช่เรื่องที่จะสบายใจ” รับว่าเคยกำชับพิ้งกี้ไว้ว่าให้อยู่เงียบๆ อย่าให้มีข่าวเรื่องนี้อีก ซึ่งนางเอกสาวก็รับปาก แต่สุดท้ายข่าวดังกล่าวกลับฉาวโฉ่กว่าเดิมหลายเท่า กับเรื่องนี้พอย้อนถามผู้จัดคนดังก็ได้คำตอบว่า... “ข่าวนี้คือเขาเป็นคนทำหรือนักข่าวไปออกข่าวเอง คือเรื่องมันมาจากทำให้มันเป็นข่าวหรือเปล่า เช่น เขายังไปคบหากับพี่เป๊กหรือยังเจอกับพี่เป๊กมันถึงเป็นข่าว หรือคนที่ทำให้ข่าวนี้เกิดขึ้นเพราะมาออกข่าวหรือเปล่า แต่ถ้าว่ามันเป็นข่าวที่ออกมาจากคนอื่น หรือออกมาจากนักข่าวที่มันเป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้ว มันก็อีกเรื่องนึงถูกมั้ย มันต้องให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย ตอนนี้พี่ยังบอกอะไรไม่ได้ ทราบแต่ว่าน้องไม่สบายใจมาก แต่เราก็นัดกันว่าจะมาคุยกันเพื่อปรึกษาหารือกันว่ามันจะเป็นยังไง แต่ขอเวลาพี่นิดนึง” “ส่วนน้องจะกลับมาวันไหนและคุยกันวันไหนนั้น พูดง่ายๆ ว่าพิ้งกี้มีคิวที่จะต้องมาถ่ายละคร แต่ว่าพี่ยังให้คำตอบตอนนี้ไม่ได้แน่ชัด ว่าตกลงภายในวันสองวันนี้เขาจะกลับมาหรือไม่ คือถ้ามันมีเหตุการณ์อย่างนี้เขาจะกลับมาหรือเลื่อนไปพี่ยังไม่แน่ใจ เพราะว่าถ้ากลับมาตอนนี้เขาคงแย่เหมือนกัน นี่ก็รอดูว่าวันสองวันเขาจะโทร.มาอีก”แต่เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงทางออกของเรื่องนี้ หากบทสรุปคือพิ้งกี้ทำเรื่องอย่างว่าจริงๆ ทางทีวีซีนจะมีมาตรการอย่างไรกับนักแสดงในสังกัดที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม เจ้าตัวก็รีบสวนกลับทันควันว่า... “พี่ยังบอกไม่ได้ มันยังไม่ได้คุยกันๆ อย่าไปพูดว่า ถ้าสมมุติ มันถ้าไม่ได้เพราะยังไม่ได้คุยกัน มันยังเป็นอนาคต ปัจจุบันนี้ยังไม่ได้คุยกับเขา ต้องเอาปัจจุบัน ถ้าคุยแล้วมันถึงจะมีคำตอบ พี่ให้คำตอบไปล่วงหน้าไม่ได้ (แล้ว โดยมาตรฐานการทำงานของค่ายทีวีซีน หากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นกับนักแสดงในสังกัดเคยดำเนินการอย่างไร?) ไม่ พี่จะบอกไม่ได้มาตรฐานของพี่ก็คือต้องคุยกันก่อน มันเป็นอนาคตของคนๆ นึงนะ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันเป็นอนาคตของเขานะ” “สมมุติพี่บอกว่า เฮ้ย คนนี้มันไม่ดีนี่หว่า พี่ไม่เอาแล้ว ชีวิตเขาอนาคตเขาก็ดับไปเลยถูกมั้ย เพราะเท่ากับว่าพี่ปฏิเสธ พี่ก็ไปซ้ำเติมเขาอีก มันไม่ใช่ไง มันต้องดูเหตุและผล พี่จะเป็นคนที่ไม่ทำร้ายใครแน่นอน แต่จะบอกถึงอนาคตว่ามันจะต้องร่วมงานกันไปตลอดมั้ย หรือว่าจะไม่ร่วมงานพี่ตอบไม่ได้ แต่สิ่งนึงที่บอกได้ คือพี่เป็นคนไม่ทำร้ายใครแน่นอน” “บอกได้อย่างเดียวว่า เหตุการณ์แบบนี้ เรื่องแบบนี้พี่ไม่สนับสนุน ถ้าเป็นจริง ถ้ายังคบหาติดต่อกันอยู่ ในขณะนี้ เดี๋ยวนี้ที่ร่วมงานกับพี่อยู่ พี่ไม่เห็นด้วยเลย พี่ไม่ชอบใจอย่างยิ่ง อันนี้พี่บอกได้เลย” ปัด ยังไม่มีฟีดแบคจากทางผู้ใหญ่ช่อง3 บอก ขอเคลียร์เองเพราะเป็นคนพามา ที่เหลือค่อยตัดสินใจร่วมกัน “ยังๆ (เสียงเซ็ง) พี่ยังไม่ให้ไปรบกวนผู้ใหญ่หรอก แค่นี้ก็ปวดหัวจะแย่แล้ว พี่ต้องคุยก่อนเพราะเป็นคนติดต่อเขามา พี่ต้องเป็นคนเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อย ถึงจะไปเรียนให้ทางนาย(ประวิทย์)ทราบ ว่าตกลงเราจะเอายังไง หรือพิ้งกี้จะเอายังไง ไม่ใช่อยู่ที่พี่คนเดียวนะ มันอยู่ที่น้องด้วย” ยอมรับ ด้วยความที่สนิทกับธัญญ่ามาเป็น 10 ปี แล้วคู่กรณีพิ้งกี้ก็เป็นเด็กที่อยู่ในความดูแลของตนเอง ทำให้รู้สึกลำบากใจที่ต้องเป็นคนกลาง “มันก็ต้องลำบากใจทั้งนั้นแหละ จะบอกว่าบอกว่าพี่มีความสุขใจได้ไง(หัวเราะ) ลำบาก ใจที่ว่านี่ก็เด็กที่เราต้องดูแล อีกคนก็เป็นน้องที่สนิทสนมกัน รู้จักกันมาเป็น 10 ปี พี่พูดได้เลยว่าธัญญ่าก็ยังรู้สึกดีๆ กันอยู่ ก็ยังคุยกันอยู่ เมื่อวันอาทิตย์(10 ต.ค.)ก็ยังคุยกันอยู่ มีอะไรเขาก็โทรมาระบาย แต่เขาก็ไม่เคยพูดถึงไม่เคยด่าพิ้งกี้ มีแต่โทร.มาปรึกษาหารือ โทร.มาระบายในฐานะที่เราเป็นผู้ใหญ่ โทร.มาเรื่องลูกอะไรแบบนี้” “เขาเข้าใจและเขาก็ ไม่มาแบบ พี่ปิ่นธัญญ่าขอร้อง อย่าเอาพิ้งกี้นะ ไม่มี ไม่เคยเลย ด้วยความสัจจริง ไม่เคยเลย (วันนั้นคุยอะไรกันบ้าง?) เขาไม่สบายใจเรื่องคลิปที่มันออกไป (ให้คำแนะนำอะไรธัญญ่าบ้าง?) (นิ่งคิดสักพักก่อนตอบ...) ก็มีบ้างตามประสาผู้ใหญ่ที่จะให้คำปรึกษากับน้อง พี่ก็พูดรวมๆ ว่าจะคิดจะทำอะไรอย่านึกถึงตัวเอง อย่านึกถึงพี่เป๊ก แต่ให้นึกถึงลูกมากๆ คือจะทำอะไรก็แล้วแต่ให้คิดถึงลูกก่อน แล้วทุกอย่างมันก็จะซอร์ฟลง มันก็จะดีเอง เพราะว่าเรามีอะไรยึดเหนี่ยว เรามีอะไรที่เราคิดถึง พี่ก็ให้คำแนะนำง่ายๆ อย่างนี้” พร้อมกันนี้เจ้าตัวเชื่อว่า เรื่องราวที่เกิดขึ้น แม้กระทั่งเรื่องคลิปเสียงที่หลุดออกมาล่าสุด ไม่ใช่การจงใจทำลายกันของทั้งสองฝ่าย แต่ส่วนตัวมองเป็นการปกป้องตัวเองของทั้งคู่มากกว่า “ถามว่าพี่คิดอย่างนั้นมั้นน่ะเหรอ(ย้อนถามผู้สื่อข่าว) อืม... พี่ไม่คิดว่ามันเป็นการทำลายฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรืออะไรอย่างนี้นะ พี่คิดว่าธัญญ่าก็มีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง ที่จะเคลียร์ปัญหาอันนี้ คือธัญญ่ามีสิทธิ์ที่จะปกป้องตัวเอง และครอบครัวก็คือลูก และสุดท้ายก็คือครอบครัวเขา ในขณะเดียวกันพิ้งกี้ก็มีสิทธิ์จะปกป้องตัวเองเช่นเดียวกัน ที่ไม่ให้ดูเลวร้ายกับสังคม เพราะฉะนั้นมันก็เลยดูเหมือนเป็นการเถียงกันทะเลาะกัน ไม่ใช่ความผิดของฉันมันเป็นความผิดของเธอ พี่ว่ามันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์นะ มันไม่ใช่เรื่องใส่ความอะไรกันหรอก แต่มันเป็นเรื่องตัวเองมากกว่า” “เรื่องแบบนี้พี่ว่าสื่อต้องช่วยกันน่ะ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฟิล์มกับแอนนี่ พี่ว่าถ้าเราให้ความสำคัญกับเรื่องพวกนี้น้อยลงไป เรื่องมันก็จะไม่เยอะขนาดนี้ เรื่องไม่ดีมันก็ต้องมีการตักเตือนกัน แต่ที่พูดหมายถึงว่ามันเป็นเรื่องที่ไร้สาระสำหรับสังคม และเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยจะดีที่สังคมจะต้องรับรู้มากเกินไป โดยเฉพาะกับเด็กวันรุ่น อ่านข่าวมีแต่เรื่องคาวโลกีย์ แล้วมันจะทำให้แวดวงบันเทิงของเรามันดูแย่ในสายตาคนอื่น” “เวลานี้ไปที่ไหนก็มีแต่ อ้อ...พวกนักแสดงมันมั่วกันอย่างนี้เหรอ แล้วพี่อยู่วงการนี้พี่ก็รู้ว่ามันเป็นจำนวนน้อย พี่ก็รักวงการของพี่ แล้วพี่ก็ไม่อยากให้ใครมาทำลายวงการนี้ เรามีความรู้สึกว่าตอนนี้มันแย่ไปหมด ก็อยากให้นักข่าวช่วยๆ กันหน่อย” อย่างไรก็ตาม กับเรื่องดังกล่าวผู้สื่อข่าวได้สอบถามไปยัง “สมรักษ์ ณรงค์วิชัย” หัวหน้าฝ่ายผลิตรายการไทยทีวีสีช่อง3 เจ้าตัวก็ชี้แจงว่า ทราบข่างตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว แต่ยังไม่ได้ฟังคลิปด้วยตนเอง จึงไม่อยากออกความเห็นใดๆ รวมไปถึงมาตรการที่จะดำเนินการกับพิ้งกี้ ที่ตกเป็นข่าวฉาวรายวัน อีกทั้งโดยส่วนตัวยังไม่อยากปักใจเชื่อใคร เพราะคิดว่าใครก็ปั่นกระแสขึ้นมาก็ได้ ฉะนั้นขอเวลาพิจารณาหลักฐานก่อน จึงจะให้ข้อสรุปได้ว่าจะดำเนินการกับเรื่องนี้อย่างไร

Sunday, October 3, 2010

ช๊อค หามฟิล์มส่งโรงพยาบาล

ช๊อค หามฟิล์มส่งโรงพยาบาล BNH รายงานข่าวจากเรื่องเล่าเช้านี้ ช่อง 3 ขณะนี้อยู่ห้อง ICU สาเหตุมาจากกินยาคลายเครียดเกินขนาด ขณะนี้อาการปลอดภัย แฟนคลับฟิล์มไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ

Saturday, October 2, 2010

อั้ม โต้ โดมจับหน้าอก

อั้ม โต้ โดมจับหน้าอก “อั้ม” ยัน “โดม” เป็นสุภาพบุรุษ ภาพเหมือนโดนจับหน้าอกแค่มุมกล้อง ขำๆ จะให้จับจริงก็ได้ ปัด “ต๊อด” โทรง้อขอรีเทิร์น แจงตนเป็นฝ่ายโทรไปบอกลาฝ่ายชาย เพราะอีกฝ่ายจะไปเรียนต่างประเทศ ส่วนแหวนเพชรที่ใส่อยู่ซื้อเอง “โน้ต” เปล่าเป็นพ่อบุญทุ่มซื้อให้ คงต้องยกความเป็นเจ้าแม่ของวงการบันเทิงให้กับเธอจริงๆ สำหรับนางเอกสาวสุดเซ็กซี่ “อั้ม พัชราภา ไชยเชื้อ” เพราะนอกจากขึ้นชื่อเรื่องความเซ็กซี่ที่ไม่มีใครคว่ำได้แล้ว ตอนนี้ “อั้ม” ยังกลายเป็นเจ้าแม่งานอีเว้นท์ขยันรับงานโชว์ตัวถี่ และทุกครั้งก็มักมีประเด็นข่าวให้เธอต้องโต้และแจกแจงเรื่องจริงอยู่เสมอ ล่าสุดในงาน Doll Mania 2010 @ CentralPlaza RAMA3 ณ บริเวณลานลิฟท์แก้ว ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา พระราม 3 “อั้ม” ลงทุนแต่งตัวเลียนแบบตุ๊กตาและใส่มงกุฎอันหนักอึ้ง ที่นอกจากจะทำให้ปวดหัวมากอยู่แล้ว นางเอกสาวต้องปวดหัวจี๊ดซ้ำสองกับคำถามเรื่องภาพโดนหนุ่มหล่อขั้นเทพ “โดม ปกรณ์ ลัม” จับหน้าอก “ห๊า(ทำหน้าตกใจ) ไม่มีค่ะ ไม่มีๆ เรื่องจริงไม่มีแน่นอน โดมสุภาพบุรุษนะคะ ไม่มีแน่นอนค่ะ อั้มว่ามุมกล้องมากกว่า โดนยังไม่ค่อยโดนกันเท่าไหร่เลย อาจจะแค่ถ่ายใกล้ๆ กันเท่านั้นเอง ไม่มีอะไรจริงๆ ให้จับจริงๆ เลยก็ได้นะ(หัวเราะชอบใจ) ไม่ใช่ๆ ออกท่าทางมากไม่ได้นะ เราเป็นผู้หญิง จับไม่ได้ ไม่มีๆ โอ๊ย...ตั้งแต่เรื่องโดนพี่บุรินทร์หอมแก้ม มาอันนี้อีก อั้มเครียดตลอดเลยค่ะ เจออั้มบ่อยใช่มั้ยช่วงนี้(หัวเราะ) แต่ยังไม่ได้อ่านข่าวนี้เลยค่ะ ขออ่านก่อนได้ไหม ครั้งหน้าค่อยมาคุยกันนะ” ปัดอดีตหวานใจรุ่นน้อง “ต๊อด ศิณะ อุ่นทรพันธุ์” โทรตามง้อ ลั่นไม่มีโอกาสรีเทิร์น พร้อมโต้ “โน้ต วิเศษ รังษีสิงห์พิพัฒน์” ซื้อแหวนเพชรให้ใส่ “ข่าวต๊อดโทรมาง้อขอคืนดี โธ่....ต๊อดไปเรียนต่อแล้วค่ะ อั้มไม่ได้ไปส่ง วันนั้นอยู่อังกฤษ เขาก็ไม่ได้โทรมาง้อ อั้มโทรไปลาเขาเท่านั้นเอง ไม่ได้มีอะไรเลย ไม่ได้คุยเลยค่ะ เขาเพิ่งไปไม่นานนี้เอง โทรไปลาครั้งเดียว และเขาก็ไปหลายปีค่ะ แต่ก็คงกลับมาบ้างมั้ง ทางที่จะกลับมาดีกันเหรอ คืออั้มก็รู้สึกดีๆ กับเขาตลอดนะคะ ลึกๆ ก็ดีนะ ก็ขอให้เขาประสบความสำเร็จอย่างที่เขาคิดไว้ เอาใจช่วยอยู่ตลอดค่ะ” “ส่วนแหวนที่ใส่อยู่ (หัวเราะ) ดูสิเหงื่อแตกเลย ที่มาที่ไปก็จ่ายเองค่ะ แต่แหวนช่วยกันเลือกกับโน้ต แต่จ่ายเอง เลือกไซส์เองด้วยค่ะ ราคาก็เบาๆ 3 กะรัตนิดๆ แต่จริงๆ อั้มก็ซื้อเองตลอดนะ ที่เห็นใส่ๆ นี่ก็ซื้อเองทั้งนั้นเลย จะเม็ดเล็กเม็ดใหญ่แล้วแต่ ก็ผู้หญิงล่ะนะต้องคู่กับเพชรอยู่แล้ว และเก็บไว้ได้ยาวค่ะ แต่มันก็ไม่ได้มีเยอะขนาดสะสมได้หรอก แค่อยากจะได้ ต้องดูเงินก่อน เก็บตังค์ไปเรื่อยๆ ค่ะ คือเอาไว้มีเงินแล้วค่อยซื้อ คงไม่ถึงกับปีละครั้งหรอก เพราะเพชรก็แพง แต่วงนี้ใส่นานแล้ว หลายครั้งแล้วค่ะ ใส่มา 3 เดือนแล้วมั้ง”

Friday, October 1, 2010

เป๊ก” ควง “แม่” ไปง้อคืนดี “ธัญญ่า”

“พิ้งกี้” ไม่รู้ “เป๊ก” ควง “แม่” ไปง้อคืนดี “ธัญญ่า” บอกถ้าเป็นจริงก็ดี เพราะตนก็อยากเดินหน้าต่อ ยอมรับสภาพจิตใจดีขึ้น และเข้าเคลียร์ผู้ใหญ่ช่อง 3 เรื่องฉาวถี่แล้ว เชื่อเจอมรสุมข่าวฉาวเพราะเป็นปีเบญจเพส ต่อจากนี้คงมีชีวิตที่ดี ปัดคุย “หยาด” เรื่องย้ายช่อง เปรยถ้าไปจริงก็ยังเป็นเพื่อนกันอยู่
แม้จะควงคุณแม่ออกมาร้องห่มร้องไห้ปล่อยโฮต่อหน้าสื่อไปไม่กี่วันก่อน พร้อมวอนจบข่าวแย่ง “เป๊ก สัณชัย เองตระกูล” จากอกภรรยาอย่าง “ธัญญ่า ธัญญาเรศ” แต่พอมีข่าวฝ่ายชายลงทุนพาแม่บินไปอเมริกาเพื่อง้อขอคืนดี “ธัญญ่า” หลายคนเลยอยากรู้ว่า เรื่องนี้ทำให้นางเอกตาคม “พิ้งกี้ สาวิกา ไชยเดช” ที่ตกเป็นข่าวมือที่สามรู้สึกอย่างไร ซึ่งพอได้เจอตัวนางเอกสาวอีกครั้งในงานเปิดตัว เดอะ คอรัล พัทยา ที่ศูนย์ประชุมสิริกิตติ์ จึงสอบถาม แต่เจ้าตัวบอกไม่รู้เรื่องนี้ แต่ถ้าเป็นจริงก็ถือว่าดี ทุกฝ่ายจะได้มีความสุข
“พี่เป๊กกับคุณแม่ไปเคลียร์กับพี่ธัญญ่าเหรอคะ ก็ดีแล้วค่ะ ดีแล้ว เพราะทุกคนก็อยากให้มันแฮปปี้ ตัวกี้เองก็อยากจะเดินหน้ากับชีวิตต่อไป ทำงานให้มันมีความสุขค่ะ คิดว่าทุกอย่างเราก็พูดชัดเจน แล้วก็คงจะมีความสุขทุกฝ่าย แต่ไม่ทราบมาก่อนเลยค่ะ เพิ่งรู้เอง (หัวเราะ)”
“จากวันนั้นทางพี่เขาก็ไม่ได้มีติดต่อมานะคะ ทางพี่เขาพูดในรายการไปแล้ว เป็นการเคลียร์ที่ดีที่สุด เราก็พูดในของเรา แล้วกี้ก็ไม่อยากให้ใครต้องมาเขียนประเด็น เปิดประเด็นให้กี้ต้องมานั่งตอบพี่ๆ อีกแล้ว เพราะกี้ก็เหนื่อย ทุกคนก็เหนื่อย กี้ก็ไม่อยากจะต้องมานั่งพูดอีกแล้ว”
บอกหลังจากร้องไห้ปล่อยโฮพร้อมแม่ กับการให้สัมภาษณ์สื่อครั้งที่แล้ว ทำให้รู้สึกสบายใจมากขึ้น
“กระแสจากครั้งที่แล้วเหรอคะ (หัวเราะ) คือ ทางเราก็ทำดีที่สุดแล้วค่ะ อะไรที่มันจะเกิดก็เกิด เราก็ทำดีที่สุดแล้ว ต่อไปในอนาคตเราก็คงทำงานต่อไปของเรา ก็ขอให้ไม่มีอะไรต่อไปในอนาคตอีก ก็ดีขึ้นนะคะ ที่จริงทุกคนก็ต่างคนต่างทำงาน ทุกคนก็คงไม่มาสนใจเรื่องนี้หรอกค่ะ มันมีหลายอย่างให้น่าศึกษา น่าสนใจมากกว่าเรื่องอื่น แต่สำหรับตัวกี้ถามว่าสบายใจขึ้นไหม ก็มีงานให้ทำ เราก็สบายใจที่ต้องทำงาน มันมีงานหลายๆ อย่างที่ให้กี้ทำ กี้ก็ถือว่าดีนะ เราจะได้แอกทีฟตลอดเวลา”
“สำหรับผู้ใหญ่ก็มี พี่ปิ่น (ณัฏฐนันท์ ฉวีวงษ์ บอสทีวีซีน) ค่ะที่คุยกับคุณแม่ประจำ เขาก็คุยกัน อย่างนาย (ประวิทย์ มาลีนนท์) กี้ก็เข้าไปคุยกับนายอยู่แล้ว ผู้ใหญ่ก็คงคุยปรึกษากับคุณแม่ค่ะ แต่ก็คงไม่มีอะไร เพราะว่าข่าวมันจบก็คือจบค่ะ ผู้ใหญ่ก็คงไม่ออกมาว่าอะไร แต่จริงๆ เขาก็คงไม่อยากให้เป็นข่าวหรอก เขาก็คงอยากเห็นอะไรที่มันดีๆ มากกว่า ก็นับจากวันนี้ไปถ้าใครเขียนข่าวอีก ก็คงไม่มีอะไร เพราะกี้ไม่ได้ไปทำอะไรแล้วค่ะ ก็อยากให้มันหยุดๆ”
“วิธีเซฟตัวเองเราก็เดินกับแม่เรา พี่เราเป็นกองทัพนี่แหละค่ะ เป็นอย่างนี้ตลอด ใครที่รู้จักกี้ก็จะรู้ว่ากี้อยู่กับแม่ตลอด เห็นแม่เป็นเงาตามตัวกี้อยู่แล้ว เพราะฉะนั้นการเซฟตัวเองได้ดีที่สุด ก็คืออยู่กับแม่นี่แหละค่ะ แต่จะยังไงก็แล้วแต่คนคิด เพราะว่ากี้ก็สุดๆ แล้วในชีวิตก็คงไม่มีอะไรแบบนี้อีก คงเพราะเป็นปีเบญจเพสด้วยแหละค่ะ ก็เลยอาจจะค่อนข้างแรงนิดนึง (หัวเราะ) แต่นับจากนี้ไปก็น่าจะผ่านไปเป็นปีที่ดีแล้ว” ปัดคุยกับเพื่อนซี้อย่าง “หยาดทิพย์ ราชปาล” เรื่องที่อีกฝ่ายมีข่าวจะย้ายไปอยู่ช่อง 7
“กับหยาดวันนี้ยังคุยกันอยู่เลยค่ะ เขาเพิ่งกลับจากญี่ปุ่น ก็เลยยังไม่ได้คุยอะไรเรื่องข่าวทั้งนั้น หยาดก็ให้กำลังใจกี้ กี้ก็ให้กำลังใจหยาดเป็นเรื่องปกติ แล้วช่วงนี้เขาสอบด้วยค่ะ เราก็ให้กำลังใจเขาในเรื่องที่เขาต้องเครียดกับข้อสอบแค่นั้น เรื่องข่าวหยาดก็บอกสู้ๆ แต่ที่ว่าเขาจะไปช่อง 7 อันนี้ไม่ทราบเลย พูดความจริงเลยว่ากับหยาดเรื่องนี้เราไม่เคยคุยกัน เราคุยกันเรื่องอื่นมากกว่า เรื่องแบบนี้ไม่เคยคุยกัน”
“ให้คำปรึกษาเหรอ กี้ว่าหยาดคงตัดสินใจเอง เพื่อนจะตัดสินใจยังไงก็แล้วแต่เพื่อนอยู่แล้ว เราก็ไม่ยังไง ยังไงกี้กับหยาดก็เป็นเพื่อนกัน ไม่ว่าจะเป็นยังไง หยาดจะไปที่ไหนหรือหยาดจะยังอยู่ กี้ก็ยังเป็นเพื่อนกับหยาด เพราะฉะนั้นเรื่องการเปลี่ยนแปลงไม่ทราบเลยค่ะ”
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000137865
อ่านหน้าต่อไปคลิก Older Posts