Tuesday, March 24, 2009

ต๊ะ ถูกด่าไม่แมนแซว

ต๊ะ ถูกด่าไม่แมนแซว "เอมมี่" หัวนมดำ ต๊ะ-วริษฐ์ รีบโร่ขอโทษฝ่ายหญิง แจงเป็นการทวนคำถามสื่อหลังไมค์ เปล่ามีเจตนาพูดว่าดาราสาว รับรู้สึกแย่และเครียดกับข่าวที่ออกมาจนผวากลัวการให้สัมภาษณ์ ลั่นต่อไปจะมีสมาธิคิดก่อนพูดมากกว่าเดิม

เกี่ยวกับกรณีที่ดาราหนุ่ม ต๊ะ-วริษฐ์ ไปพูดแซว เอมมี่-มรกต ว่าหัวนมดำ หลังฝ่ายหญิงเผลอทำจุกโผล่และให้สัมภาษณ์วอนสื่อแบบขำๆ ว่า หากจะรีทัชสติ๊กเกอร์ออกขอให้ทำหัวนมเป็นสีชมพู กระทั่งเจ้าตัวได้ยินคำพูดของฝ่ายชายเลยพูดเหน็บกลับว่า หัวนมจะสีอะไรก็ช่างเพราะไม่ได้เปิดให้ใครดูนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวมีโอกาสเจอหน้าต๊ะ-วริษฐ์ อีกรอบเลยเข้าไปสอบถามความรู้สึกที่ถูกเอมมี่พูดตอกกลับมา ดาราหนุ่มได้ขอแก้ต่างให้ตัวเองว่า

"ต้องบอกก่อนว่าตอนแรกเราโทรไปคุยธรรมดาว่าโอเค.นะ เสร็จแล้วก็วางสายไป อีกวันก็เกิดเรื่อง วันงานครอบครูช่อง 3เราเป็นห่วงเขาเลยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นกำลังใจให้ คิดว่าเอมมี่ไม่ได้สร้างกระแสแต่คงเป็นอุบัติเหตุ มันก็จบไปแล้วก็มีพี่ๆ พูดแซวขึ้นมาว่า เอมมี่ไปทำชมพูมานะ เราก็....ดำด้วยเหรอครับ พูดไปไม่ได้คิดอะไรเพราะมันเป็นหลังไมค์ด้วย แต่เขากดเทปไปแล้ว พอเราพูดอย่างนี้มันเลยกลายเป็นเราดูไม่ดีไปเลย เราซีเรียสมากเพราะเขาเป็นผู้หญิง เราถูกมองว่าไม่แมนไม่ให้เกียรติเขา ซึ่งจุดประสงค์เราจริงๆ ไม่ได้เป็นแบบนั้น สิ่งที่ออกมาเหมือนกับเป็นการทวนคำถามของผมว่า เฮ้ย....ไปทำสีมานะ ดำด้วยนะ เราก็ดำด้วยเหรอ มันเลยกลายเป็นไปกันใหญ่ โห...ตอนนี้หน้าหน้ามืดมากงงเลย"

"ผมรู้สึกแย่นะ เหมือนเราทำงานจบแล้วตรงนั้นแต่ยังมีเรื่องต่อไปอีก มันก็กังวลใจ ต่อไปนี้เวลาสัมภาษณ์เราก็กลัวเหมือนกัน กลัวจะพูดอะไรไปอีก ก็ถ้าเอมมี่เข้าใจผิดอย่างนั้นก็ฝากขอโทษน้องมี่ด้วยละกัน แต่เรื่องราวจริงๆ ก็อย่างที่เข้าใจกันว่ามันคืออะไร ไม่ใช่อยู่ๆ ผมจะไปบอกว่าเขาเป็นอย่างนี้ ผมต้องขอโทษเขาที่สื่อสารกันผิด ด้วยข่าวที่ออกไปอาจทำให้เขาดูไม่ดี ผมเครียดมากไม่อยากให้ออกมาเป็นอย่างนี้เลย"

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าหลังเกิดเรื่องได้โทรไปพูดคุยกับเจ้าตัว เพื่อชี้แจงความจริงบ้างหรือยัง พระเอกหนุ่มส่ายหน้ากล่าวว่า

"คือตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องเลยว่ามีอะไร จนพี่นักข่าวเอามาให้ดูรูปว่ามีแบบนี้ เราดูโห....เป็นอย่างนี้เลยเหรอ พอสัมภาษณ์ผมก็บอกว่ามันเป็นอุบัติเหตุ เราเป็นห่วงเขานะ อีกแป๊บหนึ่งผมก็โทรหาเขา แต่เขาคงถ่ายละครอยู่เลยไม่ได้รับ พอจบไปอีกวันกลายเป็นเรื่องหนักกว่าเดิมอีก กลายเป็นไปว่าเขาอีก ทั้งที่เราเป็นห่วงเขามาก แต่เดี๋ยวผมคงต้องโทรไปหาเขาบอกว่าเรื่องราวความจริงมันเป็นแบบนี้ ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิด เราเป็นเพื่อนสนิทที่ดีต่อกัน เขาเป็นคนตลกด้วย เขาชอบอำอะไรแบบนี้มา เราก็อำกลับ พอเห็นเขาซีเรียสก็ไม่อยากทำให้เขาเครียดมากขึ้น อยากให้เขาขำสนุกมากกว่า (กลัวเข้าหน้าเอมมี่ไม่ติดหรือเปล่า?) ไม่หรอก เราก็คุยกันประจำเรื่อยๆ ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันอยู่แล้ว ผมก็ยังไม่รู้ว่าโทรไปเขาจะรับสายหรือเปล่า ถ้าเขาติดงานคงไม่รับ ถ้าว่างคงโอเค.มั้งครับ"

ได้บทเรียนอะไรจากการพูดครั้งนี้? "เมื่อไหร่ที่ปิดไมค์และกดเทปแล้วเราต้องมีสมาธิต่อไป โดยที่ไม่ต้องฟังอะไรแล้ว (หัวเราะ) มันแว่บเดียวจริงๆ ที่เขาพูดขึ้นมา เราก็ทวนคำถามกลับไปว่ามันเป็นอย่างนี้เหรอ ผมไม่ได้เจตนาจริงๆ ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอย่างนี้ได้ยังไง"

No comments:

Post a Comment

อ่านหน้าต่อไปคลิก Older Posts